edutainment society by Thanika http://thethanika.blogspot.com/

หลังจากเคยแจ้งเพื่อนๆว่า​ จีนเคยแจ้งว่า #อาการแสดง หนึ่งของ #เคสโควิด คือการได้กลิ่นและการรับรสลดลง(พบในบางเคส)​ ขณะนี้พบเคสในไทยแล้ว​ คือ #ปราจีนบุรี​5 ค่ะ _____ #ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยปราจีนบุรี​ รายที่ 5 มีรายละเอียดดังนี้ เป็นหญิง อายุ 22 ปี วันที่ 18 มี.ค.63 ร่วมสังสรรค์กับเพื่อน 5 คน บ้านพักที่ กทม. รัชดาซอย 10 ดื่มน้ำและดื่มเบียร์ใช้หลอดร่วมกัน 4 คน วันที่ 19-22 มี.ค.63 พักที่บ้านพัก ที่ กทม.แถวรัชดา ซอย 10 วันที่ 23 มี.ค.63 เดินทางจากกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ส่วนตัวกลับบ้านที่อำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี วันที่ 24 มี.ค.63 ไปเยี่ยมญาติที่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ***วันที่ 25 มี.ค.63 เริ่มป่วยมีอาการรับรู้ทางประสาทสัมผัสลดลง (กลิ่นและรส)*** วันที่ 26 มี.ค.63 พักที่บ้านที่อำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี วันที่ 27 มี.ค.63 นำรถยนต์ไปเข้าศูนย์ไทรพลัส สาขากบินทร์บุรี เวลา 15.00-17.00 น. จากนั้นไปจอดซื้อของที่ LOTUS สาขากบินทร์บุรี เดินชมทุกแผนก วันที่ 28 มี.ค. 63 ปวดท้อง แน่นท้อง เข้ารับการรักษาที่ รพ.กบินทร์บุรี เป็นผู้ป่วยนอก(ไม่ได้แจ้งประวัติการทำงานที่ผับในกรุงเทพฯ) วันที่ 2

http://www.thainurse.org/images/7_9maxx/nurserec(10).pdf

การบริหารภาพลักษณ์วิชาชีพพยาบาล : การสร้าง Nursing Brand  โดย ฐานิกา  บุษมงคล พย.ม.           ในปัจจุบัน การบริหารการพยาบาลนั้น หากจะมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อจัดบริการพยาบาลที่พึงประสงค์ก็ดูจะด้อยเกินไป   การบริหารการพยาบาลในทศวรรษต่อไป  ควรจะเพิ่มมูลค่าไปในทิศทางที่ว่า การบริหารการพยาบาลอย่างไรจึงจะได้ใจประชาชน  และสร้างให้วิชาชีพพยาบาลเป็นตราสินค้าหรือ แบรนด์ ( Brand ) ที่ฝังอยู่ในใจของประชาชนนั้น ถือเป็นโจทย์ที่สำคัญและท้าทายยิ่งของผู้บริหารการพยาบาล คำว่า Brand นั้นเป็นความประทับใจสุทธิที่ฝังอยู่ในใจของบุคคลตลอดไป ซึ่งมีทั้งมุมกว้างและลึก เป็นมิติและรัศมีการสื่อสาร (ดลชัย  บุณยะรัตเวช, 2549)   การค้นหาว่า แบรนด์ของวิชาชีพพยาบาลนั้นคืออะไร  อะไรคือส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งเป็นพื้นฐานหลักของตนเองเหมือนเป็นธรรมชาติภายในเฉพาะตัวของวิชาชีพพยาบาลที่ประทับอยู่อย่างเด่นชัด (Intrinsically strinking) และตอกย้ำสม่ำเสมอ จนสามารถสร้างความประทับใจบางอย่างที่ติดตรึงไม่ลบเลือน (indelible impression) ในความทรงจำของประชาชนได้ ส่วนประกอบของแบรนด์ เมื่อมีความพิเศษ เข้มข้น เชื่อมโยงกันด้วยคว

ฐานิกา บุษมงคล. 2550. การสร้างมาตรฐานการพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจชนิดเปิดระยะวิกฤต ไอซียูศัลยศาสตร์ ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. รายงานการศึกษา อิสระปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล คณะพยาบาล ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. อาจารย์ที่ปรึกษาการศึกษาอิสระ: รองศาสตราจารย์วิภาพร วรหาญ บทคัดย่อ การศึกษาอิสระครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานการพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจชนิดเปิดระยะวิกฤต ไอซียูศัลยศาสตร์ ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอาศัยการค้นคว้าตำรา เอกสารทางวิชาการ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และใช้การจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการสร้างมาตรฐานการพยาบาลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจชนิดเปิดระยะวิกฤต ได้ร่างมาตรฐานการพยาบาลเชิงกระบวนการและเชิงผลลัพธ์ ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน นำไปปรับแก้และตรวจสอบความตรงตามความสัมพันธ์ตามแนวคิดเมสัน ก่อนนำไปใช้กับผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจชนิดเปิดระยะวิกฤตไอซียูศัลยศาสตร์ ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯจำนวน 20 คน ระหว่างวันที่ 1ถึง28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละแล

จีนทดสอบวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครรอบแรกครบ108คน โดยผลทดสอบจะออกในเดือนเมษายน - เริ่มมีผู้ที่เสร็จสิ้นช่วงกักตัว14วันและกลับบ้านแล้ว 18คน โดยมีสุขภาพปกติดี  /ด้านหัวหน้าทีมวิจัยวัคซีน เผย อาจทดลองวัคซีนในประเทศอื่น ที่เป็นพื้นที่ระบาดหนักนอกจีน วันนี้อ้ายจงมีข่าวความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนในจีนมาฝากครับ ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จีนได้ทดสอบฉีดวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัครที่เป็นคนในพื้นที่อู่ฮั่น อายุ 18-60ปี จำนวน 108คน โดยแบ่งเป็น 3กลุ่ม ตามระดับโดสของวัคซีน ได้แก่ โดสต่ำ, โดสกลาง และโดสสูง ล่าสุด 2 เมษายนที่ผ่านมา จีนได้ฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัครครบทั้ง 108คนแล้ว และตอนนี้มีอาสาสมัคร 18คน ที่ฉีดวัคซีนตั้งแต่วันแรกๆของการทดลอง ได้ครบกำหนดกักตัวหลังฉีดยา จำนวน14วัน และกลับบ้านได้แล้ว  ซึ่งทุกคนได้ผ่านการทำCT scan และตรวจร่างกายก่อนออก  พบว่าทุกคนมีสุขภาพปกติดี โดยอีก 14วันจะต้องมาตรวจอีกรอบ  รวมถึงภายใยระยะเวลา 6เดือนหลังฉีดวัคซีน จะมีการติดตามผลและตรวจสุขภาพ เพื่อให้ทราบประสิทธิภาพและผลข้างเคียงวัคซีน อาสาสมัครบางคน กล่าวว่า "วันแรกของการรับวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย

ทางการปักกิ่งแถลง "แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยขณะนั่งเครื่องบิน โดยพบเคสที่เจอผู้ป่วยCOVID-19บนเที่ยวบินเดียวกัน มากที่สุดถึง13ราย"  วันนี้ 3 เม.ย. 63 ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคปักกิ่ง แถลงถึงสถานการณ์ COVID-19 โดยพูดถึงจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกที่เกินหนึ่งล้านรายแล้ว จึงแนะนำว่า หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ไม่ควรไปในประเทศที่ระบาดหนักไม่ว่าจะไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม ซึ่งตอนนี้การติดเชื้อ มีความเสี่ยงทั้งติดในต่างประเทศ และบนเครื่องบินเองก็เสี่ยงเช่นกัน  โดยมีรายงานถึงการพบผู้โดยสารบนเที่ยวบินหนึ่งที่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยCOVID-19 มากที่สุดถึง 13รายบนเที่ยวบินนั้น  ทางปักกิ่งจึงขอแนะนำให้ทุกคนใส่หน้ากากขณะนั่งบนเครื่องบินด้วย อ้ายจงอ้างอิงจาก 央视新闻 (CCTV News)  https://m.weibo.cn/2656274875/4489664042339345 #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

บทวิเคราะห์และสรุป "สิ่งที่ต้องจับตามองและน่ากังวล ของสถานการณ์ COVID-19ในจีน แม้อู่ฮั่นจะยกเลิก Lockdown 8เมษานี้" ----- ตอนนี้ ผู้คนในเมืองอู่ฮั่น เมืองที่ถือเป็นพื้นที่ระบาด COVID-19หนักที่สุดในจีน เริ่มออกมาพักผ่อนข้างนอกรับฤดูใบไม้ผลิ  ซึ่งตอนนี้การใช้ชีวิตของคนอู่ฮั่นเริ่มกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้นเรื่อยๆ และมาตรการ Lockdownจะสิ้นสุดในวันที่ 8เมษายน2563 อีกไม่ถึง3วันนับจากนี้ แต่ถ้าถามคนจีนเอง รวมถึงตัวอ้ายจง ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่ 100% ที่จะบอกได้ว่าสงครามCOVID-19ในจีน จบลงแล้ว เพราะแม้ว่า ขณะนี้จะมีผู้ป่วยCOVID-19ที่รักษาตัวอยู่ในรพ.ทั่วจีน ลดลงเหลือ 2,371ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นรายวัน โดยเฉลี่ยไม่เกิน 50ราย ยังคงมีบางประเด็นที่ยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ดังนี้ 1.ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ Asymptomic infection ยังคงมีเพิ่มขึ้น หลังจากที่จีนปรับระบบรายงานสถานการณ์ COVID-19 โดยเพิ่มจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการเข้ามาในรายงานประจำวันด้วย ทำให้เราทราบว่า ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่มขึ้น 47ราย (มาจากนอกจีน 16ราย) ซึ่งถ้าแบ่

การวัดไข้​ด้วยเครื่องวัดไข้แบบอินฟาเรด วันก่อนดิฉันได้สอนวิธีวัดไข้แบบสั้นๆ​ โดยย้ำเตือนว่า​ ผู้วัดกับผู้ถูกวัดห้ามหันหน้าเข้าหากัน​ วันนี้ดิฉันเลย อยากจะอธิบายเพิ่มเติม​ เพื่อลดความเสี่ยงของผู้ปฏิบัติงานจากการติดเชื้อโควิด  -​ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดเครื่องวัด​ 1 ก้อนต่อ1คน​ถูกวัด เช็ดเสร็จแล้วต้องทิ้งเลย​ ย้ำคนถูกวัด1คนต่อสำลี1ก้อน -เมื่อเช็ดแอลกอฮอล์แล้วให้รอสัก5วินาทีให้แอลกอฮอล์ระเหยแล้วค่อยยิง​ วิธีการรอคือ​ ผู้วัดให้นับในใจ1, 2,3,4,5 แล้วยก​ ยิง -ผู้วัดกับผู้ถูกวัดให้ยืนฉากกัน​ ห้ามยืนประจันหน้ากัน -ผู้วัดต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันให้ครบชุดประกอบด้วยหมวกคลุมผม, เสื้อกาวน์กันน้ำ, หน้ากากอนามัยแบบกระดาษ, ถุงมือ, กางเกงขายาว, รองเท้าหุ้มส้น -กรณีตั้งด่าน​ ถ้าในด่านมีหลายคน​ และขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกัน​ อย่างน้อยคนที่ถือเครื่องวัดไข้ต้องแต่งชุดให้ครบตามนี้ -กรณีห้างร้าน​ ธนาคาร​ สำนักงาน​ คนถือเครื่องวัดอุณหภูมิต้องแต่งเต็มยศ​ และห้ามไปทำอย่างอื่น -ผู้วัดไข้​ เมื่อเสร็จงาน​ ต้องรีบถอดขุดออก​ ทำความสะอาดชุด, อุปกรณ์​ รวมถึงรองเท้า​ แล้วอาบน้ำ​ สระผม​ ล้างจม

สรุปยอดผู้ป่วยโควิดสะสมในไทย 31มกราคม2563....19​ ราย 29กุมภาพันธ์2563..42 ราย 31​มีนาคม​ 2563..1,651ราย 1เมษายน2563...1,771 ราย 2เมษายน2563...1,875 ราย 3เมษายน2563...1,978 ราย 4เมษายน2563...2,067 ราย 5เมษายน2563...2,169 ราย 6เมษายน2563...2,220 ราย 7เมษายน2563...2,258 ราย 8เมษายน​2563... 2369 ราย #สรุปยอด   #ผู้ป่วย    #โควิด   #สะสม  #ไทย

ยอดคนติดเชื้อโควิด ยอดโควิด 6 เมษายน 2563 ประเทศไทย รายใหม่ 51 ราย  ป่วยสะสม 2,220 ราย เสียชีวิต 3 ราย  เสียชีวิตสะสม 26 ราย ยอดโควิด 6 เมษายน 2563 โลก Coronavirus Cases: 1,276,117 Deaths:69,509 Recovered:265,943 15.00 น. https://www.worldometers.info/coronavirus/#countries