การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคณาจารย์เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคณาจารย์เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ
ปีการศึกษา 2552-2553 ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
********************************************************************
วิชากฏหมาย
1. ท่านมีวิธีการดึงความสนใจ หรือกระตุ้นนักศึกษาก่อนและระหว่างการสอนเนื้อหาวิชาดังนี้
- ชี้แจงความสำคัญของการเรียนวิชานี้ เพื่อสอบขอขึ้นทะเบียน
- ยกสถานการณ์จริงเล่าให้ฟัง นำมาใช้เป็นตัวอย่างการวิเคราะห์ อภิปราย
2. ท่านใช้วิธีการและเทคนิคการสอนที่ช่วยให้นักศึกษาเกิดความรู้ความเข้าใจ หรือจดจำเนื้อหาวิชาได้มากขึ้น ดังนี้
- ติดตามคำทีละคำ ทีละประโยค และยกตัวอย่างประกอบ
- เปรียบเทียบ case และโยงความสอดคล้องกับทฤษฎีเนื้อหาส่วนที่เกี่ยวข้อง
- ยกตัวอย่างใกล้ตัวเปรียบเทียบกับสถานการณ์พบ ward
3. ท่านมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้ในห้องเรียนที่มีนักศึกษาจำนวนมาก(100 คน) ดังนี้
- สุ่มถาม
- แบ่งกลุ่มตอบคำถาม
- Post test
4. ท่านคิดว่าการเตรียมนักศึกษาเพื่อการสอบฯ อย่างมีประสิทธิภาพควรเป็นดังนี้
- ให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่ถูกต้องตรงประเด็น การมีผู้สอนที่เชี่ยวชาญในหัวข้อที่สอนและมีประสบการณ์สอนในหัวข้อเดิมมากกว่า 2 ปี (ควรมีผู้สอนในหัวข้อเดิม เป็นคนเดิมมากกว่า 2 ปี เมื่อเริ่มสอนแล้วให้สอนต่อไปอีก ไม่ควรเปลี่ยนบ่อย ๆ) จะทำให้อธิบาย ชี้แจงในประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสภาพแก่นักศึกษาได้มาก ช่วยให้ฐานความรู้ดี
5. ท่านได้รับรู้/รับฟัง/เรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมนักศึกษาเพื่อสอบฯ จากบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกวิทยาลัยซึ่งท่านเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ มีประเด็นดังนี้
- ไม่อนุญาตให้ออกนอกวิทยาลัย ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน เก็บตัวติวเข้มและให้ตั้งคำถาม หรือหาประเด็นที่ไม่เข้าใจมาถามอาจารย์
6. ในปีการศึกษา 2554 ซึ่งมีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ประมาณ 280 คน ท่านเห็นว่าวิทยาลัยและอาจารย์ผู้รับผิดชอบควรเตรียมนักศึกษาสำหรับการสอบฯ อย่างไร
- จัดให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนเสาร์-อาทิตย์ ในวิชาเฉพาะที่ต้องสอบสภา ตามเวลาที่จัดได้ตั้งแต่เทอม 1 เพื่อให้นักศึกษาเห็นคุณค่าของการมาเรียน(ติว)
- มีช่วงเวลาติวเข้มไม่ให้ออกจากวิทยาลัยและจัดหาอาหารให้นักศึกษารับประทานสะดวก
7. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของท่านสำหรับการจัดการความรู้เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบฯ
- จัดแยกกลุ่มนักศึกษา กลุ่มเก่ง กลุ่มอ่อน ให้แยกเตรียมฯ ในประเด็นเดียวกัน คนละเวลา และให้รุ่นปี 4 ที่เคยสอบผ่านมาแล้ว(ศิษย์เก่าที่เพิ่งจบ) มาช่วยติวการสอบแต่ละวิชา ประมาณ 2 ชั่วโมง/วิชา
********************************************************************
วิชาการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น
1. ท่านมีวิธีการดึงความสนใจ หรือกระตุ้นนักศึกษาก่อนและระหว่างการสอนเนื้อหาวิชาดังนี้
- ก่อน ถามต้องการการติวของนักศึกษาก่อน เช่น ต้องการติวอย่างไร ต้องการติวเนื้อหาใดบ้าง
- ระหว่าง สรุป concept จริง ๆ โดยสั้น ๆ สอนเทคนิคการจำ ใช้คำพูดกระตุ้นให้เห็นความสำคัญเป็นระยะ ๆ มี concept สรุปให้นักศึกษาดู/ถ่ายเอกสาร(ถ้านักศึกษาต้องการ) บอกให้จดในส่วนสำคัญที่คาดเดาว่าน่าจะออกข้อสอบ อนุญาตให้กินขนมหรือน้ำได้ แต่ห้ามหลับ ห้ามชวนเพื่อนคุย
- สื่อการสอนที่หลากหลาย รูป การอธิบายให้นักศึกษาเห็นเป็นรูปธรรม เข้าใจได้ง่าย มีกิจกรรมและแรงจูงใจไม่ให้นักศึกษาหลับ
- ใช้การพูดคุย กระตุ้นการ discuss จากนักศึกษา พูดคุยเล่นเป็นกันเองบ้าง
- ก่อนเรียนมีการกระตุ้น/ดึงดูดความสนใจของนักศึกษาโดยการเล่าประสบการณ์การสอบสภาที่ผ่านมา/การแชร์เรื่องการเตรียมตัวก่อนเข้าเนื้อหาตามหัวข้อที่ได้รับ assign ให้สอนเสริม
- ในระหว่างการสอนการกระตุ้นส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกตอบคำถามโดยเน้น/สุ่มเรียกนักศึกษาที่หลับ หรือกำลังจะหลับ
2. ท่านใช้วิธีการและเทคนิคการสอนที่ช่วยให้นักศึกษาเกิดความรู้ความเข้าใจ หรือจดจำเนื้อหาวิชาได้มากขึ้น ดังนี้
- สรุปเนื้อหาสั้น ๆ
- สอนเทคนิคการจำ(ส่วนตัวของเราเอง) สอนเทคนิคการจำด้วยวิธีอื่น
- เป็นการคาดเดาเนื้อหาที่น่าจะออกข้อสอบ ให้นักศึกษาไปทบทวนเพิ่ม
- ยกกรณีศึกษาจริง ปัญหาของผู้ป่วยจริง ๆ เอามาเปรียบเทียบกับตัวเรา
- ปัญหาแต่ละโรคเน้นว่าอะไรคือประเด็นสำคัญของโรคนี้
- มีเทคนิคการในการ สร้างหลักในการจำคร่าว ๆ ไม่เจาะรายละเอียดมาก เพราะนักศึกษาค่อนข้างเครียดและจำไม่ได้
- หา keyword ให้นักศึกษาจำ และจากการทำข้อสอบต่าง ๆ จะให้ลองทำ หลังจากนั้นเฉลยเลยโดยผล การตรวจให้รอก่อน นักศึกษายังพอจำข้อสอบได้และจะให้อภิปราย ชี้ข้อผิดพลาด ข้อมูลถูกต้องให้เห็นชัดเจน
- การ short note ทำ maping โดยวิธีการของตัวนักศึกษาเอง
- สรุปเองจากการ จะทำให้เข้าใจมากขึ้น
3. ท่านมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้ในห้องเรียนที่มีนักศึกษาจำนวนมาก(100 คน) ดังนี้
- ทวนสอบกลับโดยการถามในห้องเรียนขณะนั้นเลย
- ให้ผู้ตอบถูก(สุ่ม) และผู้ตอบผิด อธิบายเหตุผลตนเองว่าคิดเพราะเหตุใด และเฉลยให้
- ข้อสอบ Pre-Post test
- โจทย์สถานการณ์ ให้นักศึกษาตอบคำถาม(อาจสุ่ม)
- สุ่มการถามตามเลขที่บ้าง มีคำถามที่นอกจากข้อสอบให้ตอบบ้าง
- สุ่มเรียกตอบคำถาม (ซึ่งอาจจะไม่ได้ทุกคนและอาจเป็นการประเมินผลที่ดีที่สุด)
4. ท่านคิดว่าการเตรียมนักศึกษาเพื่อการสอบฯ อย่างมีประสิทธิภาพควรเป็นดังนี้
- อยากให้วิเคราะห์นักศึกษาเป็นครั้ง ๆ จากอาจารย์ผู้เคยสอนหลาย ๆ ท่านก่อนกระบวนการติว เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาคิดว่าแต่ละปีนักศึกษามีสมรรถนะ/พฤติกรรมต่าง ๆ กันไป ซึ่งมีผลต่อการรับรู้แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการติว/เตรียม
- ควรเริ่มตั้งแต่ปี 2 เมื่อนักศึกษาเริ่มเรียนรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสอบ
- ควรจัดติวตั้งแต่นักศึกษาขึ้นปี 4 เทอมแรก และติวค่ายติวเข้ม 1 เดือน (น่าจะดูรูปแบบของ วพบ.สระบุรี หรือ วพบ.อื่น ที่เขาทำคะแนนได้ดี และติวแล้วนักศึกษาไม่เครียดจนเกินไป
- จัดเป็นโปรแกรมที่มีการเตรียมล่วงหน้า ตั้งแต่ปี 3 หรือเริ่มขึ้นปี 4 เพราะถ้าเราไม่จัดตารางให้นักศึกษาค่อนข้างจะรวมและเตรียมตัวได้ยากและน้อยคนที่จะทำได้
- ให้อาจารย์ทุกท่านมีส่วนร่วมในการติวนักศึกษา เพราะอาจารย์ทุกคนมีความสามารถและข้อเสนอแนะที่ดีให้กับนักศึกษา และมีเทคนิคในการจำแต่ละแบบที่หลากหลายให้นักศึกษาเลือกได้มากกว่าการสอนของกลุ่มอาจารย์เพียงกลุ่มเดียว
- สร้างกำลังให้ เน้นให้นักศึกษาตระหนัก เข้าใจถึงความสำคัญของการสอบให้ผ่าน
- ประชุมสร้างความร่วมมือระหว่างอาจารย์ผู้สอนเสริมในแต่ละวิชา
- Self Empovement
- Repare enough & available resoures for students to be able to access as much as they
5. ท่านได้รับรู้/รับฟัง/เรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมนักศึกษาเพื่อสอบฯ จากบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกวิทยาลัย ซึ่งท่านเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ มีประเด็นดังนี้
- วิทยาลัยในเครือข่ายหรือ สบช. วิธีการไม่ต่างกัน(ที่รับรู้มา) แต่เพราะอะไรนักศึกษาได้ต่างกัน ไม่ทราบ (น่าจะลองดู)
- ในมหาวิทยาลัย(ที่รู้มา) เขาช่วยเหลือนักศึกษาน้อยกว่าของเราอีก แต่นักศึกษาสอบผ่านได้มาก เกิดอะไรขึ้น ตอบไม่ตรงคำถามหรอกค่ะ แต่ถ้าหาคำตอบ 2 ข้อนี้ได้น่าจะมีอะไรดี ๆ อีกมาก
- จัดรูปแบบการติว ให้มีเรื่องของสมาธิ การออกกำลังกาย(โยคะ) การผ่อนคลายบ้าง “ฝึกสติ สมาธิ ช่วยจำ”
- มีการเตรียมนักศึกษาล่วงหน้าตั้งแต่ปี 4 เทอม 1 ฝึกทำข้อสอบและเปิดห้องเรียนติวแบบเข้มงวด ให้ออกไปข้างนอกเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ โดยทั้งอาจารย์และนักศึกษาร่วมมือกันสร้างข้อตกลงในการเตรียมตัวร่วมกันและยึดถืออย่างชัดเจน พร้อมเพรียงกัน (จัดชั่วโมง Relax ให้อย่างชัดเจน และอาจารย์ทุกท่านที่รับผิดชอบเข้าติวให้เข้าติว ห้ามปล่อยให้นักศึกษาไปอ่านเองเด็ดขาด เพราะนักศึกษาจับประเด็นไม่ได้ครบ สอบตกเยอะ)
- การเตรียมตัวนักศึกษาตั้งแต่ปี 3 ไปเรื่อย ๆ จนถึงปี 4
- การติว/สอนเสริม โดยนักศึกษากันเองด้วยและอาจารย์ด้วย
6. ในปีการศึกษา 2554 ซึ่งมีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ประมาณ 280 คน ท่านเห็นว่าวิทยาลัยและอาจารย์ผู้รับผิดชอบควรเตรียมนักศึกษาสำหรับการสอบฯ อย่างไร
- เริ่มตั้งแต่ต้นปี
- หาเวลาเพิ่มให้แต่ละวิชาบ้าง(ติว+ทำข้อสอบ) คงต้องเสียค่า OT บ้างในวันเสาร์-อาทิตย์
- แยกเด็กที่อ่อน อ่อนมาก ออกมาติวเป็นพิเศษนอกเหนือจากการติวให้เด็กอื่นตามปกติ
- จัดโปรแกรมติว แบ่งนักศึกษา 4 กลุ่ม 70 คน/กลุ่ม อาจใช้อาจารย์ประจำชั้นกระจายในแต่ละกลุ่มเพราะจะรู้จักนักศึกษาได้ค่อนข้างมากกว่าอาจารย์ท่านอื่น จัดทีมอาจารย์ที่ปรึกษาครบ 8 รายวิชาในแต่ละกลุ่ม(เพื่อพูดคุยติดตามนักศึกษา มีเด็กอ่อน+เก่ง แต่ไม่น่าคาดหวังหวังว่าเด็กเก่งจะดูอ่อนเพราะเขาก็เครียดเรื่องตัวเอง) ส่วนโปรแกรมการติวให้จัดทีมแต่ละวิชาติวเวียนกันไป(ไม่ fix ว่าอาจารย์ 8 รายวิชาจะต้องประจำกลุ่มเท่านั้น เพื่อได้แลกเปลี่ยนความรู้ เช่น วิชาการพยาบาลเด็ก อาจารย์ทั้งหมด 7 ท่าน(รวม อ.จีราภา)
- แบ่งทีมประจำกลุ่ม 4 กลุ่ม(อ.ที่เป็นหลัก) ส่วนที่เหลือประกบคู่(ไม่ครบ 8 อาจขอแรง อ.น้องใหม่กระจายช่วยอีกแรงน่าจะดีค่ะ) อาจารย์ประจำกลุ่มมีหน้าที่ดูแลนักศึกษาในห้องของตนเอง สำหรับการติวให้อาจารย์ทุกท่านในวิชาเด็กจัดเข้าติวโดยประกบพี่+น้อง(ที่มีประสบการณ์น้อย) เวียนกันติวทั้ง 4 กลุ่ม
- เริ่มชี้แจง เน้นย้ำในเรื่องการเตรียมตัวสอบตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ 1
- สร้างกำลังใจ ให้นักศึกษามีความมั่นใจ มีความตระหนักของการเตรียมตัวสอบ
- ประชุมอาจารย์ในเรื่องการวางแผน การจัดตารางสอนเสริม
- Empower นักศึกษาให้มากที่สุด เพื่อให้นักศึกษาที่มีศักยภาพที่เข้ามาศึกษาในวิทยาลัยตั้งแต่แรก ให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ให้เต็มที่ วิชาการป้อน(Input) เพียงอย่างเดียว
7. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของท่านสำหรับการจัดการความรู้เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบฯ
- มีคำถาม ทำไมวิทยาลัยอื่น ๆ จัดให้การเรียนการสอนเสร็จได้เร็วตั้งแต่เดือนธันวาคม แล้วเวลาที่เหลือเป็นเตรียมนักศึกษา อยากรู้ผลเปรียบเทียบวิธีการนี้กับของวิทยาลัยเราต่อผลการสอบได้ จะได้นำมาปรับของเราได้ หรือเราดีอยู่แล้ว
- Reward ที่เป็นไปไม่ได้ กำหนดไว้แล้วจะดีหรือไม่
- นักศึกษาที่เรียนรวมกันทั้งเรียนดี+เรียนอ่อน น่าจะมีวิธีการแยกเด็กช่วยเหลือให้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ (เพราะแม้แต่อ่านหนังสือเอง นักศึกษายังอ่านไม่เข้าใจ ถ้านั่งติวอย่างเดียวคงไม่ได้ผล)
- ให้อาจารย์และนักศึกษาร่วมกันทำข้อตกลงในการติวที่ชัดเจน ให้นักศึกษาได้รับทราบและปฏิบัติ (พลังกลุ่มของนักศึกษาสามารถดูแลกันได้ แต่ต้องแยกนักศึกษาชายไม่ให้รวมกัน)
- อาจารย์แต่ละท่านมาเล่าประสบการณ์วิธีการสอนเสริมที่จะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจและจำได้
ผู้รวบรวมข้อมูล: จริยาพร วรรณโชติ
ที่มา http://202.129.10.230/km/?p=137การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคณาจารย์เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯปีการศึกษา2552-2553ภาควิชาการพยาบาลเด็กผู้ใหญ่และผู้สูงอายุวิชากฏหมาย
ปีการศึกษา 2552-2553 ภาควิชาการพยาบาลเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
********************************************************************
วิชากฏหมาย
1. ท่านมีวิธีการดึงความสนใจ หรือกระตุ้นนักศึกษาก่อนและระหว่างการสอนเนื้อหาวิชาดังนี้
- ชี้แจงความสำคัญของการเรียนวิชานี้ เพื่อสอบขอขึ้นทะเบียน
- ยกสถานการณ์จริงเล่าให้ฟัง นำมาใช้เป็นตัวอย่างการวิเคราะห์ อภิปราย
2. ท่านใช้วิธีการและเทคนิคการสอนที่ช่วยให้นักศึกษาเกิดความรู้ความเข้าใจ หรือจดจำเนื้อหาวิชาได้มากขึ้น ดังนี้
- ติดตามคำทีละคำ ทีละประโยค และยกตัวอย่างประกอบ
- เปรียบเทียบ case และโยงความสอดคล้องกับทฤษฎีเนื้อหาส่วนที่เกี่ยวข้อง
- ยกตัวอย่างใกล้ตัวเปรียบเทียบกับสถานการณ์พบ ward
3. ท่านมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้ในห้องเรียนที่มีนักศึกษาจำนวนมาก(100 คน) ดังนี้
- สุ่มถาม
- แบ่งกลุ่มตอบคำถาม
- Post test
4. ท่านคิดว่าการเตรียมนักศึกษาเพื่อการสอบฯ อย่างมีประสิทธิภาพควรเป็นดังนี้
- ให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่ถูกต้องตรงประเด็น การมีผู้สอนที่เชี่ยวชาญในหัวข้อที่สอนและมีประสบการณ์สอนในหัวข้อเดิมมากกว่า 2 ปี (ควรมีผู้สอนในหัวข้อเดิม เป็นคนเดิมมากกว่า 2 ปี เมื่อเริ่มสอนแล้วให้สอนต่อไปอีก ไม่ควรเปลี่ยนบ่อย ๆ) จะทำให้อธิบาย ชี้แจงในประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสภาพแก่นักศึกษาได้มาก ช่วยให้ฐานความรู้ดี
5. ท่านได้รับรู้/รับฟัง/เรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมนักศึกษาเพื่อสอบฯ จากบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกวิทยาลัยซึ่งท่านเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ มีประเด็นดังนี้
- ไม่อนุญาตให้ออกนอกวิทยาลัย ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน เก็บตัวติวเข้มและให้ตั้งคำถาม หรือหาประเด็นที่ไม่เข้าใจมาถามอาจารย์
6. ในปีการศึกษา 2554 ซึ่งมีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ประมาณ 280 คน ท่านเห็นว่าวิทยาลัยและอาจารย์ผู้รับผิดชอบควรเตรียมนักศึกษาสำหรับการสอบฯ อย่างไร
- จัดให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนเสาร์-อาทิตย์ ในวิชาเฉพาะที่ต้องสอบสภา ตามเวลาที่จัดได้ตั้งแต่เทอม 1 เพื่อให้นักศึกษาเห็นคุณค่าของการมาเรียน(ติว)
- มีช่วงเวลาติวเข้มไม่ให้ออกจากวิทยาลัยและจัดหาอาหารให้นักศึกษารับประทานสะดวก
7. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของท่านสำหรับการจัดการความรู้เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบฯ
- จัดแยกกลุ่มนักศึกษา กลุ่มเก่ง กลุ่มอ่อน ให้แยกเตรียมฯ ในประเด็นเดียวกัน คนละเวลา และให้รุ่นปี 4 ที่เคยสอบผ่านมาแล้ว(ศิษย์เก่าที่เพิ่งจบ) มาช่วยติวการสอบแต่ละวิชา ประมาณ 2 ชั่วโมง/วิชา
********************************************************************
วิชาการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น
1. ท่านมีวิธีการดึงความสนใจ หรือกระตุ้นนักศึกษาก่อนและระหว่างการสอนเนื้อหาวิชาดังนี้
- ก่อน ถามต้องการการติวของนักศึกษาก่อน เช่น ต้องการติวอย่างไร ต้องการติวเนื้อหาใดบ้าง
- ระหว่าง สรุป concept จริง ๆ โดยสั้น ๆ สอนเทคนิคการจำ ใช้คำพูดกระตุ้นให้เห็นความสำคัญเป็นระยะ ๆ มี concept สรุปให้นักศึกษาดู/ถ่ายเอกสาร(ถ้านักศึกษาต้องการ) บอกให้จดในส่วนสำคัญที่คาดเดาว่าน่าจะออกข้อสอบ อนุญาตให้กินขนมหรือน้ำได้ แต่ห้ามหลับ ห้ามชวนเพื่อนคุย
- สื่อการสอนที่หลากหลาย รูป การอธิบายให้นักศึกษาเห็นเป็นรูปธรรม เข้าใจได้ง่าย มีกิจกรรมและแรงจูงใจไม่ให้นักศึกษาหลับ
- ใช้การพูดคุย กระตุ้นการ discuss จากนักศึกษา พูดคุยเล่นเป็นกันเองบ้าง
- ก่อนเรียนมีการกระตุ้น/ดึงดูดความสนใจของนักศึกษาโดยการเล่าประสบการณ์การสอบสภาที่ผ่านมา/การแชร์เรื่องการเตรียมตัวก่อนเข้าเนื้อหาตามหัวข้อที่ได้รับ assign ให้สอนเสริม
- ในระหว่างการสอนการกระตุ้นส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกตอบคำถามโดยเน้น/สุ่มเรียกนักศึกษาที่หลับ หรือกำลังจะหลับ
2. ท่านใช้วิธีการและเทคนิคการสอนที่ช่วยให้นักศึกษาเกิดความรู้ความเข้าใจ หรือจดจำเนื้อหาวิชาได้มากขึ้น ดังนี้
- สรุปเนื้อหาสั้น ๆ
- สอนเทคนิคการจำ(ส่วนตัวของเราเอง) สอนเทคนิคการจำด้วยวิธีอื่น
- เป็นการคาดเดาเนื้อหาที่น่าจะออกข้อสอบ ให้นักศึกษาไปทบทวนเพิ่ม
- ยกกรณีศึกษาจริง ปัญหาของผู้ป่วยจริง ๆ เอามาเปรียบเทียบกับตัวเรา
- ปัญหาแต่ละโรคเน้นว่าอะไรคือประเด็นสำคัญของโรคนี้
- มีเทคนิคการในการ สร้างหลักในการจำคร่าว ๆ ไม่เจาะรายละเอียดมาก เพราะนักศึกษาค่อนข้างเครียดและจำไม่ได้
- หา keyword ให้นักศึกษาจำ และจากการทำข้อสอบต่าง ๆ จะให้ลองทำ หลังจากนั้นเฉลยเลยโดยผล การตรวจให้รอก่อน นักศึกษายังพอจำข้อสอบได้และจะให้อภิปราย ชี้ข้อผิดพลาด ข้อมูลถูกต้องให้เห็นชัดเจน
- การ short note ทำ maping โดยวิธีการของตัวนักศึกษาเอง
- สรุปเองจากการ จะทำให้เข้าใจมากขึ้น
3. ท่านมีวิธีการประเมินผลการเรียนรู้ในห้องเรียนที่มีนักศึกษาจำนวนมาก(100 คน) ดังนี้
- ทวนสอบกลับโดยการถามในห้องเรียนขณะนั้นเลย
- ให้ผู้ตอบถูก(สุ่ม) และผู้ตอบผิด อธิบายเหตุผลตนเองว่าคิดเพราะเหตุใด และเฉลยให้
- ข้อสอบ Pre-Post test
- โจทย์สถานการณ์ ให้นักศึกษาตอบคำถาม(อาจสุ่ม)
- สุ่มการถามตามเลขที่บ้าง มีคำถามที่นอกจากข้อสอบให้ตอบบ้าง
- สุ่มเรียกตอบคำถาม (ซึ่งอาจจะไม่ได้ทุกคนและอาจเป็นการประเมินผลที่ดีที่สุด)
4. ท่านคิดว่าการเตรียมนักศึกษาเพื่อการสอบฯ อย่างมีประสิทธิภาพควรเป็นดังนี้
- อยากให้วิเคราะห์นักศึกษาเป็นครั้ง ๆ จากอาจารย์ผู้เคยสอนหลาย ๆ ท่านก่อนกระบวนการติว เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาคิดว่าแต่ละปีนักศึกษามีสมรรถนะ/พฤติกรรมต่าง ๆ กันไป ซึ่งมีผลต่อการรับรู้แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการติว/เตรียม
- ควรเริ่มตั้งแต่ปี 2 เมื่อนักศึกษาเริ่มเรียนรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสอบ
- ควรจัดติวตั้งแต่นักศึกษาขึ้นปี 4 เทอมแรก และติวค่ายติวเข้ม 1 เดือน (น่าจะดูรูปแบบของ วพบ.สระบุรี หรือ วพบ.อื่น ที่เขาทำคะแนนได้ดี และติวแล้วนักศึกษาไม่เครียดจนเกินไป
- จัดเป็นโปรแกรมที่มีการเตรียมล่วงหน้า ตั้งแต่ปี 3 หรือเริ่มขึ้นปี 4 เพราะถ้าเราไม่จัดตารางให้นักศึกษาค่อนข้างจะรวมและเตรียมตัวได้ยากและน้อยคนที่จะทำได้
- ให้อาจารย์ทุกท่านมีส่วนร่วมในการติวนักศึกษา เพราะอาจารย์ทุกคนมีความสามารถและข้อเสนอแนะที่ดีให้กับนักศึกษา และมีเทคนิคในการจำแต่ละแบบที่หลากหลายให้นักศึกษาเลือกได้มากกว่าการสอนของกลุ่มอาจารย์เพียงกลุ่มเดียว
- สร้างกำลังให้ เน้นให้นักศึกษาตระหนัก เข้าใจถึงความสำคัญของการสอบให้ผ่าน
- ประชุมสร้างความร่วมมือระหว่างอาจารย์ผู้สอนเสริมในแต่ละวิชา
- Self Empovement
- Repare enough & available resoures for students to be able to access as much as they
5. ท่านได้รับรู้/รับฟัง/เรียนรู้เกี่ยวกับการเตรียมนักศึกษาเพื่อสอบฯ จากบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกวิทยาลัย ซึ่งท่านเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ มีประเด็นดังนี้
- วิทยาลัยในเครือข่ายหรือ สบช. วิธีการไม่ต่างกัน(ที่รับรู้มา) แต่เพราะอะไรนักศึกษาได้ต่างกัน ไม่ทราบ (น่าจะลองดู)
- ในมหาวิทยาลัย(ที่รู้มา) เขาช่วยเหลือนักศึกษาน้อยกว่าของเราอีก แต่นักศึกษาสอบผ่านได้มาก เกิดอะไรขึ้น ตอบไม่ตรงคำถามหรอกค่ะ แต่ถ้าหาคำตอบ 2 ข้อนี้ได้น่าจะมีอะไรดี ๆ อีกมาก
- จัดรูปแบบการติว ให้มีเรื่องของสมาธิ การออกกำลังกาย(โยคะ) การผ่อนคลายบ้าง “ฝึกสติ สมาธิ ช่วยจำ”
- มีการเตรียมนักศึกษาล่วงหน้าตั้งแต่ปี 4 เทอม 1 ฝึกทำข้อสอบและเปิดห้องเรียนติวแบบเข้มงวด ให้ออกไปข้างนอกเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ โดยทั้งอาจารย์และนักศึกษาร่วมมือกันสร้างข้อตกลงในการเตรียมตัวร่วมกันและยึดถืออย่างชัดเจน พร้อมเพรียงกัน (จัดชั่วโมง Relax ให้อย่างชัดเจน และอาจารย์ทุกท่านที่รับผิดชอบเข้าติวให้เข้าติว ห้ามปล่อยให้นักศึกษาไปอ่านเองเด็ดขาด เพราะนักศึกษาจับประเด็นไม่ได้ครบ สอบตกเยอะ)
- การเตรียมตัวนักศึกษาตั้งแต่ปี 3 ไปเรื่อย ๆ จนถึงปี 4
- การติว/สอนเสริม โดยนักศึกษากันเองด้วยและอาจารย์ด้วย
6. ในปีการศึกษา 2554 ซึ่งมีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ประมาณ 280 คน ท่านเห็นว่าวิทยาลัยและอาจารย์ผู้รับผิดชอบควรเตรียมนักศึกษาสำหรับการสอบฯ อย่างไร
- เริ่มตั้งแต่ต้นปี
- หาเวลาเพิ่มให้แต่ละวิชาบ้าง(ติว+ทำข้อสอบ) คงต้องเสียค่า OT บ้างในวันเสาร์-อาทิตย์
- แยกเด็กที่อ่อน อ่อนมาก ออกมาติวเป็นพิเศษนอกเหนือจากการติวให้เด็กอื่นตามปกติ
- จัดโปรแกรมติว แบ่งนักศึกษา 4 กลุ่ม 70 คน/กลุ่ม อาจใช้อาจารย์ประจำชั้นกระจายในแต่ละกลุ่มเพราะจะรู้จักนักศึกษาได้ค่อนข้างมากกว่าอาจารย์ท่านอื่น จัดทีมอาจารย์ที่ปรึกษาครบ 8 รายวิชาในแต่ละกลุ่ม(เพื่อพูดคุยติดตามนักศึกษา มีเด็กอ่อน+เก่ง แต่ไม่น่าคาดหวังหวังว่าเด็กเก่งจะดูอ่อนเพราะเขาก็เครียดเรื่องตัวเอง) ส่วนโปรแกรมการติวให้จัดทีมแต่ละวิชาติวเวียนกันไป(ไม่ fix ว่าอาจารย์ 8 รายวิชาจะต้องประจำกลุ่มเท่านั้น เพื่อได้แลกเปลี่ยนความรู้ เช่น วิชาการพยาบาลเด็ก อาจารย์ทั้งหมด 7 ท่าน(รวม อ.จีราภา)
- แบ่งทีมประจำกลุ่ม 4 กลุ่ม(อ.ที่เป็นหลัก) ส่วนที่เหลือประกบคู่(ไม่ครบ 8 อาจขอแรง อ.น้องใหม่กระจายช่วยอีกแรงน่าจะดีค่ะ) อาจารย์ประจำกลุ่มมีหน้าที่ดูแลนักศึกษาในห้องของตนเอง สำหรับการติวให้อาจารย์ทุกท่านในวิชาเด็กจัดเข้าติวโดยประกบพี่+น้อง(ที่มีประสบการณ์น้อย) เวียนกันติวทั้ง 4 กลุ่ม
- เริ่มชี้แจง เน้นย้ำในเรื่องการเตรียมตัวสอบตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ 1
- สร้างกำลังใจ ให้นักศึกษามีความมั่นใจ มีความตระหนักของการเตรียมตัวสอบ
- ประชุมอาจารย์ในเรื่องการวางแผน การจัดตารางสอนเสริม
- Empower นักศึกษาให้มากที่สุด เพื่อให้นักศึกษาที่มีศักยภาพที่เข้ามาศึกษาในวิทยาลัยตั้งแต่แรก ให้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ให้เต็มที่ วิชาการป้อน(Input) เพียงอย่างเดียว
7. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของท่านสำหรับการจัดการความรู้เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบฯ
- มีคำถาม ทำไมวิทยาลัยอื่น ๆ จัดให้การเรียนการสอนเสร็จได้เร็วตั้งแต่เดือนธันวาคม แล้วเวลาที่เหลือเป็นเตรียมนักศึกษา อยากรู้ผลเปรียบเทียบวิธีการนี้กับของวิทยาลัยเราต่อผลการสอบได้ จะได้นำมาปรับของเราได้ หรือเราดีอยู่แล้ว
- Reward ที่เป็นไปไม่ได้ กำหนดไว้แล้วจะดีหรือไม่
- นักศึกษาที่เรียนรวมกันทั้งเรียนดี+เรียนอ่อน น่าจะมีวิธีการแยกเด็กช่วยเหลือให้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ (เพราะแม้แต่อ่านหนังสือเอง นักศึกษายังอ่านไม่เข้าใจ ถ้านั่งติวอย่างเดียวคงไม่ได้ผล)
- ให้อาจารย์และนักศึกษาร่วมกันทำข้อตกลงในการติวที่ชัดเจน ให้นักศึกษาได้รับทราบและปฏิบัติ (พลังกลุ่มของนักศึกษาสามารถดูแลกันได้ แต่ต้องแยกนักศึกษาชายไม่ให้รวมกัน)
- อาจารย์แต่ละท่านมาเล่าประสบการณ์วิธีการสอนเสริมที่จะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจและจำได้
ผู้รวบรวมข้อมูล: จริยาพร วรรณโชติ
ที่มา http://202.129.10.230/km/?p=137การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคณาจารย์เพื่อเตรียมนักศึกษาสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯปีการศึกษา2552-2553ภาควิชาการพยาบาลเด็กผู้ใหญ่และผู้สูงอายุวิชากฏหมาย
ความคิดเห็น