ผู้ชายมีบ้านเล็กเพราะอะไรและทำไมผู้หญิงถึงรักผัวเขา
แม้จะรู้ว่าความรักมักเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ แต่หลายคนก็ไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก แค่ขอให้ได้รัก แม้จะเป็นรักที่ขมขื่นในภายหลังก็ยังดีกว่าไม่ได้รัก ถ้าเป็นนิยายน้ำเน่าเล่มละไม่กี่บาทก็จะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง พระเอกนางเอกฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามจนได้เข้าสู่ประตูวิวาห์
แต่เมื่อหันกลับมาพบกับความจริง นั่นเป็นเพียงแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น เพราะชีวิตคู่หลังจากนี้ยากจะประเมิน หลักฐานที่เป็นรูปธรรมที่สุดเห็นจะเป็นสถิติที่ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ทำการสำรวจไว้ว่า อัตราการหย่าร้างของสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสมีสูงถึง 30% โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนสาเหตุนั้นก็เกิดจากปัจจัยหลายประการส่วนใหญ่จะเป็นการปันใจของฝ่ายคุณสามีซะมากกว่า
ศ.นงพงา ลิ้มสุวรรณ ภาควิชาจิตแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ทำการศึกษาสาเหตุของการมีภรรยาน้อยของชายไทยจำนวน 20 คน พบสาเหตุที่แท้จริงว่า การที่เขาไปมีภรรยาน้อย หรือนอกใจภรรยานั้นมีสาเหตุหลายอย่างมากซึ่งคล้ายกับคนที่มาเป็นภรรยาน้อยที่มีหลายสาเหตุเหมือนกัน แต่เหตุผลต่างกันมากระหว่างหญิงและชาย สามารถสรุปได้ดังนี้คือ
1.ความใกล้ชิดผู้หญิง สามีเหล่านี้คิดว่าเพราะตนไปใกล้ชิดภรรยาน้อยด้วยเหตุต่างๆ ต่อมาความใกล้ชิดทำให้เกิดความรัก ความผูกพันขึ้น เกิดความถูกใจ สามีบางคนไปรู้เรื่องน่าสงสารน่าเห็นใจ อยากช่วยทำให้พัวพัน จนเกิดเรื่องเพศสัมพันธ์ตามมา สาเหตุข้อนี้พบมากที่สุดคือประมาณสองในสาม คิดเป็น 66.67 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว
เหตุผลที่สามีอ้างเรื่องความใกล้ชิดพาไปนี้จะเข้าทำนองคำกล่าวที่ว่า “รักแท้ แพ้ใกล้ชิด” กระมัง
2. ผู้ชายมีทัศนคติว่าสามารถมีภรรยาได้หลายคน มีผู้ชายในกลุ่มนี้ 7 คน จาก 20 คน ซึ่งมากถึงหนึ่งในสาม มีความคิดว่าไม่เห็นเป็นอะไร ผู้ชายสามารถมีภรรยามากกว่าหนึ่งคนในขณะเดียวกันได้ หรือพูดอีกอย่างว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่จะมีเมียหลายคนและผู้หญิงที่เป็นภรรยาหลวงน่าจะยอมรับได้ แต่ขณะเดียวกันผู้ชายเหล่านี้จะค้านว่าภรรยาตนไม่มีสิทธิ์มีสามีได้หลายคนในขณะเดียวกัน
3. ไม่มีความสุขกับภรรยาหลวง เดิมข้อนี้เป็นที่เข้าใจของคนทั่วไปมากเหมือนกันว่า ถ้าสามีใครไปมีภรรยาน้อยแปลว่า เป็นความบกพร่องของภรรยาหลวงที่ไม่สามารถ “มัดใจ” สามีไว้ได้ หรือพูดทำนองว่า “สามีคนเดียวก็เอาไว้ไม่อยู่” ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาดว่าเป็นหน้าที่ของภรรยาที่จะไปมัดใจสามีไว้ ทั้งที่มันควรจะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งสามีและภรรยาที่จะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข ไม่ใช่หน้าที่หรือเป็นภาระของผู้หนึ่งผู้ใดทั้งสิ้น
จากการศึกษาครั้งนี้ก็น่าประหลาดใจเช่นกันที่พบว่าสามีที่มีเมียน้อย มีเพียง 10% ที่บอกว่าไม่มีความสุขในชีวิตสมรส ส่วนใหญ่ถึง 90% ยังมีความสุขดีในครอบครัวเดิมแต่ก็ยังไปมีภรรยาน้อยอยู่ดี ข้อนี้ช่วยให้ภรรยาหลวงไม่ต้องตกเป็นจำเลยของปัญหาเลย เพราะต่อให้สามีรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตคู่จริง ก็ยังต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่นำไปเป็นข้ออ้างในการมีภรรยาอีกคน หรือไม่สามีควรต้องจบชีวิตคู่กับภรรยาเดิมให้เรียบร้อยเสียก่อนน่าจะถูกต้องกว่าที่จะสร้างปัญหาใหม่ซ้อนขึ้นมาบนปัญหาเดิม ซึ่งพลอยทำให้ลูกต้องรับกรรมตามไปด้วย
4. สาเหตุอื่นๆ สามีหลาย ๆ คนพูดว่าที่มีภรรยาน้อยเพราะภรรยาน้อยสามารถให้ประโยชน์กับตน เช่น เงินทอง ข้าวของและสามารถสนับสนุนให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่ทำอยู่ เพราะภรรยาน้อยมีเส้นสายหรือมีผู้ใหญ่ที่ภรรยาน้อยวิ่งเต้นให้ได้ บางคนจะอ้างว่าที่ไปมีเมียน้อย เพราะเป็นเพียงวิธีหาความสุขของผู้ชายเท่านั้น สามีบางคนเห็นว่าการมีเมียน้อย เป็นความสามารถของสามี คือสามารถทำให้ผู้หญิงมายอมเป็นเมียน้อยของตนได้
วิเคราะห์ให้ดีจะเห็นว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ชายเหล่านี้ไปนอกใจภรรยาก็คือบุคลิกนิสัยส่วนตัวนั่นเอง เพราะพบจากการสัมภาษณ์ว่าคนเหล่านี้มีปัญหาบุคลิกภาพหลายๆ อย่างเป็นพื้นฐานหรือต้นตอเดิม คือพบว่าเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวเปลี่ยนแปลงง่ายไม่ชอบตัดสินใจ ไม่ชอบคิดมาก ปล่อยตามสบาย ไม่ชอบแสดงออก หุนหันพลันแล่น เป็นต้น
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี จะชอบปล่อยตัวปล่อยใจไปเรื่อยๆ แล้วแต่เหตุการณ์จะพาไป หรือไม่ยับยั้งชั่งใจให้ดี ไม่พยามยามหักห้ามใจไม่ให้ทำผิด ไม่ข่มใจ ไม่อดกลั้น ไม่หยุดตัวเอง ไม่ยุติปัญหาตั้งแต่ต้น แล้วพาไปสู่การพ่ายแพ้แก่อารมณ์ของตนหรือที่เรียกอีกอย่างว่า แพ้ต่อกิเลสตัณหาของตน เพราะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่ใกล้ชิดผู้หญิงอื่นหรือมีโอกาสที่มีผู้หญิงอื่นมาเสนอตัวแล้วจะต้องลงเอยด้วยพฤติกรรมนอกใจภรรยาเสมอไป ซึ่งน่าดีใจที่ผู้ชายส่วนใหญ่ 75-80% ยังมีคุณธรรมมีบุคลิกนิสัยที่ดีอยู่ที่ทำให้สถาบันครอบครัวอยู่ดีมีสุขและเข้มแข็ง ดังนั้นจึงเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าการเลือกคู่ต้องดูนิสัยใจคอให้ดีๆ
ศ.นงพงา ออกตัวว่า ที่กล่าวมานี้ดูเหมือนจะชี้นำว่าสามีนั้นเป็นฝ่ายสร้างปัญหาให้ครอบครัวมากกว่า จริงๆ แล้วเป็นที่ทราบกันดีทั่วไปว่าปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่จะมาจากฝ่ายชายมากกว่าฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายผู้หญิงหรือภรรยาที่สร้างปัญหาให้ครอบครัวก็มีเช่นกัน แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยกว่าก็ตามทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์สามารถจะเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความทุกข์ได้มาก ถ้าไม่เข้าใจธรรมชาติของชีวิตและมีการเตรียมใจ ตัวอย่างความทุกข์ของภรรยาที่สามีนอกใจและทำให้ลูกก็ทุกข์ด้วย
ศ.นงพงา ยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่เคยเข้ารับคำปรึกษาให้ฟังว่า ผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 38 ปี เป็นครู สามีเป็นวิศวกร มาพบจิตแพทย์เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงจะลืมเรื่องสามีปันใจให้ผู้หญิงอื่น ภรรยาต่อว่าสามีซ้ำๆ ซากๆ แม้สามีได้ยอมรับผิดและเลิกติดต่อกับผู้หญิงแล้วก็ตาม จนสามีไม่ยอมพูดเรื่องนี้อีก และเริ่มไม่พอใจภรรยา ภรรยารู้สึกคิดไม่ตก ทำใจไม่ได้ ไม่อยากมองหน้าสามี เรื่องเกิดเมื่อสามีไปเรียนปริญญาโทพบผู้หญิงคนหนึ่งเรียนอยู่ด้วยกันช่วยกันเรียนจนเกิดความใกล้ชิดสนิทสนม และรู้สึกชอบ คิดถึงไปกินข้าวกับผู้หญิงคนนั้น โทรศัพท์คุยกันประจำ
สาเหตุที่ภรรยารู้เพราะบังเอิญภรรยาไปจัดโต๊ะของสามีแล้วสมุดบันทึกตกลงมาจากโต๊ะและสมุดเปิดหน้าที่สามีเขียนบันทึกถึงการพบผู้หญิงคนนั้นพอดี ภรรยาจึงอ่านพบเรื่องราวทั้งหมดเข้า ภรรยาคิดไม่ตก คิดหมกมุ่น และมีคำถามในใจมากมาย เช่น ทำไมสามีจึงไปชอบได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นคนเจ้าชู้เลย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ทำไมสามีจึงชอบผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นก็มีสามีแล้ว ทำไมสามีจึงไม่หักห้ามใจของตัวเองให้ได้ เมื่อรู้ว่าทำผิดครั้งแรก ทำไมสามีถึงมาหลอกตนได้ โดยชวนตนไปกับผู้หญิงคนนั้นหลายครั้ง ภรรยารู้สึกแค้นผู้หญิงคนนั้นมาก รู้สึกเหมือนถูกตบหน้า ถูกทรยศ และถูกหักหลังจากสามี รู้สึกเสียใจว่าตนเองไม่ดีอย่างไร ผู้หญิงคนนั้นดีกว่าอย่างไรรู้สึกสามีเห็นตัวเองไม่ดีพอ (ภรรยาเสียความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง) รู้สึกสามีไม่รักตนแล้ว จึงทำแบบนี้ได้
ศ.นงพงา ให้ทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ถ้าภรรยาจะทำใจให้ได้จะต้องเข้าใจว่าจิตใจของมนุษย์บางคนอ่อนแอ บางครั้งถ้าไม่สามารถควบคุมจิตใจหรือกิเลสได้ก็จะเกิดความผิดพลาดแบบนี้ คนทุกคนมีโอกาสทำผิด แต่ถ้าทำผิดแล้วกลับใจและยอมรับผิด ก็ควรให้เรื่องจบไป อย่าได้เสียเวลาชีวิตปัจจุบันที่ควรมีความสุขกับเรื่องในอดีตที่แก้ไขไม่ได้อีกเลย
ความไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรสนับเป็นปัญหาใหญ่และพบบ่อยมากในสังคมไทย แม้ในสังคมโลกก็พบได้ไม่น้อย ดังที่เราเห็นในข่าวบ้าง เห็นในสารคดีทางโทรทัศน์บ้างที่เอาชีวิตนักการเมืองดังๆ นักเขียนที่มีชื่อเสียง ดาราภาพยนตร์ และบุคคลอาชีพอื่นๆ อีกมากมายมาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ลับบ้าง เปิดเผยกับหญิงอื่นระหว่างที่ยังมีภรรยาอยู่
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่รู้กันดีอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใคร คู่สมรสจะได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างรุนแรง แล้วกระทบต่อไปถึงลูก ถึงญาติๆ และถึงเพื่อนๆ คือจะเป็นทุกข์และเดือดร้อนใจมาก จึงนับเป็นปัญหาร้ายแรงในชีวิตคู่ และครอบครัว บางครั้งทำให้ “บ้านแตกสาแหรกขาด” คือถึงขั้นอับปางล่มสลาย แล้วทิ้งบาดแผลใจไว้เหวอะหวะ ซึ่งยากต่อการเยียวยาให้หายสนิทได้ในชีวิตการทำงานของ ศ.นงพงา ผู้ซึ่งคร่ำหวอดดูแลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงถึงขั้นที่ต้องมาพบจิตแพทย์ เพราะได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการที่เป็น ตลอดจนทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพการงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยมากและคนไข้มีความทุกข์ใจขนาดหนักคือปัญหาคู่สมรสนอกใจ คนที่มาพบมักเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ภรรยาที่พบว่าสามีมีเมียน้อยจะมีอาการป่วยทางใดทางหนึ่ง อีกจำนวนหนึ่งทำใจไม่ได้แก้ปัญหาไม่ตก คิดไม่ตก จะเสียใจจนป่วยเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า คือมีอาการโศกเศร้า ร้องไห้บ่อย เบื่อทุกสิ่งทุกอย่าง หงุดหงิด โมโหง่าย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทรุดโทรม ผ่ายผอม ทำงานไม่ได้ เลี้ยงลูกไม่ได้ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร บางคนถึงขั้นคิดทำลายชีวิตสามี ลูก และตัวเอง
บางคนก็ทำจริงคือกลายเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ให้เห็นบ่อยๆ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าข่าวฆ่ากันตายที่ลงหนังสือพิมพ์ทุกวันๆ นั้นเกินกว่าครึ่งทีเดียวเป็นเรื่องหึงหวงเรื่องชู้สาว คือเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของหญิงชายเป็นหลัก
สาเหตุที่สามี-ภรรยาน้อย
ศ.นงพงา ได้สัมภาษณ์ภรรยาน้อย 20 คน และสามีที่มีภรรยาน้อย 20 คน พบเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจทำในสิ่งที่สังคมไม่ให้การยอมรับเหตุผลที่คนทั่วไปเคยปักใจเชื่อหรือเข้าใจก็คือภรรยาน้อยเป็นคนที่ต้องการให้สามีมาส่งเสียดูแลตน ภรรยาน้อยเป็นผู้หญิงที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ชอบแต่แต่งตัวสวยๆ มีชีวิตสบายๆ มีเงินทองใช้ มีบ้านอยู่ มีรถขับ จึงเลือกผู้ชายที่มีเงินทองให้โดยไม่สนใจว่าการกระทำของตนผิดศีลธรรมหรือไม่ คือเป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้
และสิ่งที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งคือ เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นไม่ใช่สาเหตุหลัก และไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้หญิงที่เป็นภรรยาน้อยทุกคนมาเป็นภรรยาน้อย สาเหตุหลักจริง ๆ คือ ต้องการที่พึ่งทางใจ พบมากที่สุดในกลุ่มภรรยาน้อยที่ศึกษา
ภรรยาน้อยเหล่านี้มีเหตุในชีวิตที่มีประสบการณ์ไม่ดีหลายๆ อย่างที่ทำให้จิตใจขาดที่พึ่งพิง รู้สึกเหงา ว้าเหว่ โดดเดี่ยว อ้างว้างมาตลอด จิตใจจึงโหยหาคนที่เข้าใจเขา คนที่จะให้ความรัก ความเข้าใจ ต้องการมีความสุขกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่าที่สามารถให้ใจได้ โดยที่ไม่ได้มุ่งหมายที่เงินทองของผู้ชาย
บางครั้งภรรยาน้อยเหล่านี้กลับเป็นคนให้ผลประโยชน์หลายๆ อย่างกับสามีด้วยซ้ำไป และยังต้องแลกกับคำประณามของสังคมว่าแย่งสามีคนอื่น ภรรยาน้อยเหล่านี้เองหลายคนรู้สึกผิด น้อยคนที่ไม่รู้สึกผิดในการกระทำของตนเอง ดังนั้นความรักความอบอุ่น ความเข้าใจจากสามีจึงต้องแลกด้วยราคาค่อนข้างแพงเหมือนกัน เหตุผลข้อนี้สรุปก็คือ เป็นด้วยเหตุผลทางจิตใจ ของภรรยาน้อยเองที่มาเจอคนที่ถูกใจ คนที่ตัวเองรักแต่เขามีครอบครัวแล้ว เข้าข่ายที่คำชาวบ้านพูดอย่างแดกดันว่า “ฉันรักผัวเขา”
อีกสาเหตุคือ ถูกหลอกลวงให้เป็นภรรยาน้อย โดยที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจแย่งสามีคนอื่นเลย แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์หลอกลวงของสามี ที่ทำให้เขาเชื่อว่าสามียังไม่มีภรรยายังเป็นโสดอยู่ ภรรยาน้อยบางคนถึงกับถูกสามีล่อลวงไปข่มขืนก่อนทำให้จำยอมเป็นภรรยาน้อยต่อมา ทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจเพราะด้วยความอ่อนหัดของภรรยาน้อยเอง และด้วยความคิดที่ว่าตัวเองเป็นของเขาแล้วจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ สามีบางคนก็หลอกลวงต่อไปว่าขอเวลาไปหย่ากับภรรยาหลวง เพื่อจะได้อยู่กินกันอย่างถูกต้องต่อไป แต่ก็พบว่าสามีมักไม่ได้ไปหย่าภรรยาหลวงแม้เวลาผ่านไปหลายปีก็ตาม กรณีนี้เข้าข่ายว่าสามีไม่ได้อยากเลิกกับภรรยาหลวง แค่อยากมีภรรยาเพิ่มเท่านั้น
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าสาเหตุที่ผู้หญิงมาเป็นภรรยาน้อยจึงมีหลายอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความต้องการทางจิตใจของมนุษย์เราเป็นอะไรที่ต้องการอยากได้และโหยหากันทุกผู้คน ฉะนั้นจะห้ามคนที่ขาดไม่ให้แสวงหาคงลำบากพอควร
ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2548
http://www.meemodel.com/success_stories/show_success_stories.php?newsid=23
แต่เมื่อหันกลับมาพบกับความจริง นั่นเป็นเพียงแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น เพราะชีวิตคู่หลังจากนี้ยากจะประเมิน หลักฐานที่เป็นรูปธรรมที่สุดเห็นจะเป็นสถิติที่ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ทำการสำรวจไว้ว่า อัตราการหย่าร้างของสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสมีสูงถึง 30% โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนสาเหตุนั้นก็เกิดจากปัจจัยหลายประการส่วนใหญ่จะเป็นการปันใจของฝ่ายคุณสามีซะมากกว่า
ศ.นงพงา ลิ้มสุวรรณ ภาควิชาจิตแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ทำการศึกษาสาเหตุของการมีภรรยาน้อยของชายไทยจำนวน 20 คน พบสาเหตุที่แท้จริงว่า การที่เขาไปมีภรรยาน้อย หรือนอกใจภรรยานั้นมีสาเหตุหลายอย่างมากซึ่งคล้ายกับคนที่มาเป็นภรรยาน้อยที่มีหลายสาเหตุเหมือนกัน แต่เหตุผลต่างกันมากระหว่างหญิงและชาย สามารถสรุปได้ดังนี้คือ
1.ความใกล้ชิดผู้หญิง สามีเหล่านี้คิดว่าเพราะตนไปใกล้ชิดภรรยาน้อยด้วยเหตุต่างๆ ต่อมาความใกล้ชิดทำให้เกิดความรัก ความผูกพันขึ้น เกิดความถูกใจ สามีบางคนไปรู้เรื่องน่าสงสารน่าเห็นใจ อยากช่วยทำให้พัวพัน จนเกิดเรื่องเพศสัมพันธ์ตามมา สาเหตุข้อนี้พบมากที่สุดคือประมาณสองในสาม คิดเป็น 66.67 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว
เหตุผลที่สามีอ้างเรื่องความใกล้ชิดพาไปนี้จะเข้าทำนองคำกล่าวที่ว่า “รักแท้ แพ้ใกล้ชิด” กระมัง
2. ผู้ชายมีทัศนคติว่าสามารถมีภรรยาได้หลายคน มีผู้ชายในกลุ่มนี้ 7 คน จาก 20 คน ซึ่งมากถึงหนึ่งในสาม มีความคิดว่าไม่เห็นเป็นอะไร ผู้ชายสามารถมีภรรยามากกว่าหนึ่งคนในขณะเดียวกันได้ หรือพูดอีกอย่างว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่จะมีเมียหลายคนและผู้หญิงที่เป็นภรรยาหลวงน่าจะยอมรับได้ แต่ขณะเดียวกันผู้ชายเหล่านี้จะค้านว่าภรรยาตนไม่มีสิทธิ์มีสามีได้หลายคนในขณะเดียวกัน
3. ไม่มีความสุขกับภรรยาหลวง เดิมข้อนี้เป็นที่เข้าใจของคนทั่วไปมากเหมือนกันว่า ถ้าสามีใครไปมีภรรยาน้อยแปลว่า เป็นความบกพร่องของภรรยาหลวงที่ไม่สามารถ “มัดใจ” สามีไว้ได้ หรือพูดทำนองว่า “สามีคนเดียวก็เอาไว้ไม่อยู่” ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาดว่าเป็นหน้าที่ของภรรยาที่จะไปมัดใจสามีไว้ ทั้งที่มันควรจะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งสามีและภรรยาที่จะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข ไม่ใช่หน้าที่หรือเป็นภาระของผู้หนึ่งผู้ใดทั้งสิ้น
จากการศึกษาครั้งนี้ก็น่าประหลาดใจเช่นกันที่พบว่าสามีที่มีเมียน้อย มีเพียง 10% ที่บอกว่าไม่มีความสุขในชีวิตสมรส ส่วนใหญ่ถึง 90% ยังมีความสุขดีในครอบครัวเดิมแต่ก็ยังไปมีภรรยาน้อยอยู่ดี ข้อนี้ช่วยให้ภรรยาหลวงไม่ต้องตกเป็นจำเลยของปัญหาเลย เพราะต่อให้สามีรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตคู่จริง ก็ยังต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่นำไปเป็นข้ออ้างในการมีภรรยาอีกคน หรือไม่สามีควรต้องจบชีวิตคู่กับภรรยาเดิมให้เรียบร้อยเสียก่อนน่าจะถูกต้องกว่าที่จะสร้างปัญหาใหม่ซ้อนขึ้นมาบนปัญหาเดิม ซึ่งพลอยทำให้ลูกต้องรับกรรมตามไปด้วย
4. สาเหตุอื่นๆ สามีหลาย ๆ คนพูดว่าที่มีภรรยาน้อยเพราะภรรยาน้อยสามารถให้ประโยชน์กับตน เช่น เงินทอง ข้าวของและสามารถสนับสนุนให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่ทำอยู่ เพราะภรรยาน้อยมีเส้นสายหรือมีผู้ใหญ่ที่ภรรยาน้อยวิ่งเต้นให้ได้ บางคนจะอ้างว่าที่ไปมีเมียน้อย เพราะเป็นเพียงวิธีหาความสุขของผู้ชายเท่านั้น สามีบางคนเห็นว่าการมีเมียน้อย เป็นความสามารถของสามี คือสามารถทำให้ผู้หญิงมายอมเป็นเมียน้อยของตนได้
วิเคราะห์ให้ดีจะเห็นว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ชายเหล่านี้ไปนอกใจภรรยาก็คือบุคลิกนิสัยส่วนตัวนั่นเอง เพราะพบจากการสัมภาษณ์ว่าคนเหล่านี้มีปัญหาบุคลิกภาพหลายๆ อย่างเป็นพื้นฐานหรือต้นตอเดิม คือพบว่าเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวเปลี่ยนแปลงง่ายไม่ชอบตัดสินใจ ไม่ชอบคิดมาก ปล่อยตามสบาย ไม่ชอบแสดงออก หุนหันพลันแล่น เป็นต้น
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี จะชอบปล่อยตัวปล่อยใจไปเรื่อยๆ แล้วแต่เหตุการณ์จะพาไป หรือไม่ยับยั้งชั่งใจให้ดี ไม่พยามยามหักห้ามใจไม่ให้ทำผิด ไม่ข่มใจ ไม่อดกลั้น ไม่หยุดตัวเอง ไม่ยุติปัญหาตั้งแต่ต้น แล้วพาไปสู่การพ่ายแพ้แก่อารมณ์ของตนหรือที่เรียกอีกอย่างว่า แพ้ต่อกิเลสตัณหาของตน เพราะไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่ใกล้ชิดผู้หญิงอื่นหรือมีโอกาสที่มีผู้หญิงอื่นมาเสนอตัวแล้วจะต้องลงเอยด้วยพฤติกรรมนอกใจภรรยาเสมอไป ซึ่งน่าดีใจที่ผู้ชายส่วนใหญ่ 75-80% ยังมีคุณธรรมมีบุคลิกนิสัยที่ดีอยู่ที่ทำให้สถาบันครอบครัวอยู่ดีมีสุขและเข้มแข็ง ดังนั้นจึงเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่าการเลือกคู่ต้องดูนิสัยใจคอให้ดีๆ
ศ.นงพงา ออกตัวว่า ที่กล่าวมานี้ดูเหมือนจะชี้นำว่าสามีนั้นเป็นฝ่ายสร้างปัญหาให้ครอบครัวมากกว่า จริงๆ แล้วเป็นที่ทราบกันดีทั่วไปว่าปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่จะมาจากฝ่ายชายมากกว่าฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายผู้หญิงหรือภรรยาที่สร้างปัญหาให้ครอบครัวก็มีเช่นกัน แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยกว่าก็ตามทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์สามารถจะเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความทุกข์ได้มาก ถ้าไม่เข้าใจธรรมชาติของชีวิตและมีการเตรียมใจ ตัวอย่างความทุกข์ของภรรยาที่สามีนอกใจและทำให้ลูกก็ทุกข์ด้วย
ศ.นงพงา ยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่เคยเข้ารับคำปรึกษาให้ฟังว่า ผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 38 ปี เป็นครู สามีเป็นวิศวกร มาพบจิตแพทย์เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรจึงจะลืมเรื่องสามีปันใจให้ผู้หญิงอื่น ภรรยาต่อว่าสามีซ้ำๆ ซากๆ แม้สามีได้ยอมรับผิดและเลิกติดต่อกับผู้หญิงแล้วก็ตาม จนสามีไม่ยอมพูดเรื่องนี้อีก และเริ่มไม่พอใจภรรยา ภรรยารู้สึกคิดไม่ตก ทำใจไม่ได้ ไม่อยากมองหน้าสามี เรื่องเกิดเมื่อสามีไปเรียนปริญญาโทพบผู้หญิงคนหนึ่งเรียนอยู่ด้วยกันช่วยกันเรียนจนเกิดความใกล้ชิดสนิทสนม และรู้สึกชอบ คิดถึงไปกินข้าวกับผู้หญิงคนนั้น โทรศัพท์คุยกันประจำ
สาเหตุที่ภรรยารู้เพราะบังเอิญภรรยาไปจัดโต๊ะของสามีแล้วสมุดบันทึกตกลงมาจากโต๊ะและสมุดเปิดหน้าที่สามีเขียนบันทึกถึงการพบผู้หญิงคนนั้นพอดี ภรรยาจึงอ่านพบเรื่องราวทั้งหมดเข้า ภรรยาคิดไม่ตก คิดหมกมุ่น และมีคำถามในใจมากมาย เช่น ทำไมสามีจึงไปชอบได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นคนเจ้าชู้เลย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าสามีจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ทำไมสามีจึงชอบผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นก็มีสามีแล้ว ทำไมสามีจึงไม่หักห้ามใจของตัวเองให้ได้ เมื่อรู้ว่าทำผิดครั้งแรก ทำไมสามีถึงมาหลอกตนได้ โดยชวนตนไปกับผู้หญิงคนนั้นหลายครั้ง ภรรยารู้สึกแค้นผู้หญิงคนนั้นมาก รู้สึกเหมือนถูกตบหน้า ถูกทรยศ และถูกหักหลังจากสามี รู้สึกเสียใจว่าตนเองไม่ดีอย่างไร ผู้หญิงคนนั้นดีกว่าอย่างไรรู้สึกสามีเห็นตัวเองไม่ดีพอ (ภรรยาเสียความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง) รู้สึกสามีไม่รักตนแล้ว จึงทำแบบนี้ได้
ศ.นงพงา ให้ทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ถ้าภรรยาจะทำใจให้ได้จะต้องเข้าใจว่าจิตใจของมนุษย์บางคนอ่อนแอ บางครั้งถ้าไม่สามารถควบคุมจิตใจหรือกิเลสได้ก็จะเกิดความผิดพลาดแบบนี้ คนทุกคนมีโอกาสทำผิด แต่ถ้าทำผิดแล้วกลับใจและยอมรับผิด ก็ควรให้เรื่องจบไป อย่าได้เสียเวลาชีวิตปัจจุบันที่ควรมีความสุขกับเรื่องในอดีตที่แก้ไขไม่ได้อีกเลย
ความไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรสนับเป็นปัญหาใหญ่และพบบ่อยมากในสังคมไทย แม้ในสังคมโลกก็พบได้ไม่น้อย ดังที่เราเห็นในข่าวบ้าง เห็นในสารคดีทางโทรทัศน์บ้างที่เอาชีวิตนักการเมืองดังๆ นักเขียนที่มีชื่อเสียง ดาราภาพยนตร์ และบุคคลอาชีพอื่นๆ อีกมากมายมาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ลับบ้าง เปิดเผยกับหญิงอื่นระหว่างที่ยังมีภรรยาอยู่
เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่รู้กันดีอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใคร คู่สมรสจะได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างรุนแรง แล้วกระทบต่อไปถึงลูก ถึงญาติๆ และถึงเพื่อนๆ คือจะเป็นทุกข์และเดือดร้อนใจมาก จึงนับเป็นปัญหาร้ายแรงในชีวิตคู่ และครอบครัว บางครั้งทำให้ “บ้านแตกสาแหรกขาด” คือถึงขั้นอับปางล่มสลาย แล้วทิ้งบาดแผลใจไว้เหวอะหวะ ซึ่งยากต่อการเยียวยาให้หายสนิทได้ในชีวิตการทำงานของ ศ.นงพงา ผู้ซึ่งคร่ำหวอดดูแลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงถึงขั้นที่ต้องมาพบจิตแพทย์ เพราะได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการที่เป็น ตลอดจนทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพการงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยมากและคนไข้มีความทุกข์ใจขนาดหนักคือปัญหาคู่สมรสนอกใจ คนที่มาพบมักเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ภรรยาที่พบว่าสามีมีเมียน้อยจะมีอาการป่วยทางใดทางหนึ่ง อีกจำนวนหนึ่งทำใจไม่ได้แก้ปัญหาไม่ตก คิดไม่ตก จะเสียใจจนป่วยเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า คือมีอาการโศกเศร้า ร้องไห้บ่อย เบื่อทุกสิ่งทุกอย่าง หงุดหงิด โมโหง่าย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทรุดโทรม ผ่ายผอม ทำงานไม่ได้ เลี้ยงลูกไม่ได้ ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร บางคนถึงขั้นคิดทำลายชีวิตสามี ลูก และตัวเอง
บางคนก็ทำจริงคือกลายเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ให้เห็นบ่อยๆ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าข่าวฆ่ากันตายที่ลงหนังสือพิมพ์ทุกวันๆ นั้นเกินกว่าครึ่งทีเดียวเป็นเรื่องหึงหวงเรื่องชู้สาว คือเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของหญิงชายเป็นหลัก
สาเหตุที่สามี-ภรรยาน้อย
ศ.นงพงา ได้สัมภาษณ์ภรรยาน้อย 20 คน และสามีที่มีภรรยาน้อย 20 คน พบเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจทำในสิ่งที่สังคมไม่ให้การยอมรับเหตุผลที่คนทั่วไปเคยปักใจเชื่อหรือเข้าใจก็คือภรรยาน้อยเป็นคนที่ต้องการให้สามีมาส่งเสียดูแลตน ภรรยาน้อยเป็นผู้หญิงที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ชอบแต่แต่งตัวสวยๆ มีชีวิตสบายๆ มีเงินทองใช้ มีบ้านอยู่ มีรถขับ จึงเลือกผู้ชายที่มีเงินทองให้โดยไม่สนใจว่าการกระทำของตนผิดศีลธรรมหรือไม่ คือเป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้
และสิ่งที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งคือ เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นไม่ใช่สาเหตุหลัก และไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้หญิงที่เป็นภรรยาน้อยทุกคนมาเป็นภรรยาน้อย สาเหตุหลักจริง ๆ คือ ต้องการที่พึ่งทางใจ พบมากที่สุดในกลุ่มภรรยาน้อยที่ศึกษา
ภรรยาน้อยเหล่านี้มีเหตุในชีวิตที่มีประสบการณ์ไม่ดีหลายๆ อย่างที่ทำให้จิตใจขาดที่พึ่งพิง รู้สึกเหงา ว้าเหว่ โดดเดี่ยว อ้างว้างมาตลอด จิตใจจึงโหยหาคนที่เข้าใจเขา คนที่จะให้ความรัก ความเข้าใจ ต้องการมีความสุขกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่าที่สามารถให้ใจได้ โดยที่ไม่ได้มุ่งหมายที่เงินทองของผู้ชาย
บางครั้งภรรยาน้อยเหล่านี้กลับเป็นคนให้ผลประโยชน์หลายๆ อย่างกับสามีด้วยซ้ำไป และยังต้องแลกกับคำประณามของสังคมว่าแย่งสามีคนอื่น ภรรยาน้อยเหล่านี้เองหลายคนรู้สึกผิด น้อยคนที่ไม่รู้สึกผิดในการกระทำของตนเอง ดังนั้นความรักความอบอุ่น ความเข้าใจจากสามีจึงต้องแลกด้วยราคาค่อนข้างแพงเหมือนกัน เหตุผลข้อนี้สรุปก็คือ เป็นด้วยเหตุผลทางจิตใจ ของภรรยาน้อยเองที่มาเจอคนที่ถูกใจ คนที่ตัวเองรักแต่เขามีครอบครัวแล้ว เข้าข่ายที่คำชาวบ้านพูดอย่างแดกดันว่า “ฉันรักผัวเขา”
อีกสาเหตุคือ ถูกหลอกลวงให้เป็นภรรยาน้อย โดยที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจแย่งสามีคนอื่นเลย แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์หลอกลวงของสามี ที่ทำให้เขาเชื่อว่าสามียังไม่มีภรรยายังเป็นโสดอยู่ ภรรยาน้อยบางคนถึงกับถูกสามีล่อลวงไปข่มขืนก่อนทำให้จำยอมเป็นภรรยาน้อยต่อมา ทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจเพราะด้วยความอ่อนหัดของภรรยาน้อยเอง และด้วยความคิดที่ว่าตัวเองเป็นของเขาแล้วจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ สามีบางคนก็หลอกลวงต่อไปว่าขอเวลาไปหย่ากับภรรยาหลวง เพื่อจะได้อยู่กินกันอย่างถูกต้องต่อไป แต่ก็พบว่าสามีมักไม่ได้ไปหย่าภรรยาหลวงแม้เวลาผ่านไปหลายปีก็ตาม กรณีนี้เข้าข่ายว่าสามีไม่ได้อยากเลิกกับภรรยาหลวง แค่อยากมีภรรยาเพิ่มเท่านั้น
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าสาเหตุที่ผู้หญิงมาเป็นภรรยาน้อยจึงมีหลายอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความต้องการทางจิตใจของมนุษย์เราเป็นอะไรที่ต้องการอยากได้และโหยหากันทุกผู้คน ฉะนั้นจะห้ามคนที่ขาดไม่ให้แสวงหาคงลำบากพอควร
ข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ 9 มีนาคม 2548
http://www.meemodel.com/success_stories/show_success_stories.php?newsid=23
ความคิดเห็น