บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน 26, 2018

"ดินสอ" หุ่นยนต์สัญชาติไทยขายแล้วจ้า

รูปภาพ
ประโยคคำตอบช่วงหนึ่งในการสัมภาษณ์นักธุรกิจที่กล้าคิดนอกกรอบ ทลายความคิดที่ว่า เมืองไทยคนไทยไม่มีทางทำได้ “คุณอู่” (เฉลิมพล ปุณโณทก) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีที เอเชีย โรโบติกส์ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาและผลิต-จำหน่ายหุ่นยนต์รายแรกในประเทศ ไทย ที่ไม่ได้คิดแค่ให้ทันโลก แต่มีความคิดมุ่งมั่นที่จะเป็น “ผู้นำโลก” คุณอู่ เล่าว่า ตนเองมีอุดมการณ์ที่คิดอยากจะทำอะไรที่เจ๋งๆให้ประเทศชาติมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี โดยผมเรียนคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งผมจะเป็นนักกิจกรรม พูดได้ว่าตั้งแต่ตอนนั้นมีเลือดรักชาติเต็มเปี่ยม ซึ่งก็ตั้งใจว่าจบมาจะทำอะไรที่ตอบแทนประเทศชาติให้ได้ “ผมมีความคิดที่อยากจะทำธุรกิจหลักๆอยู่ 3 อย่าง คือ 1.ทำอุตสาหกรรมรถยนต์แห่งชาติ 2.ธุรกิจไบโอเทค เทคโนโลยีเกี่ยวกับชีวิต 3.เซมี คอนแทกเตอร์ อย่างอินเทล ไมโครโปรเซสเซอร์ ที่สำคัญคือตัวผมไม่มีความรู้ใน 3 เรื่องนี้เลย แต่ก็ไม่ยอมแพ้เลยตัดสินใจไปเรียนต่อ MBA ที่สหรัฐอเมริกา ตั้งใจไปดูดข้อมูลความรู้จากต่างชาติ” กระทั่งศึกษาจบก็หางานทำที่สหรัฐฯ กับบริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านการเงิน ซึ่งระหว่างทำงานก็มีโอกา

โครงการทุนบูรณาการเพื่อความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์

Facebook วิษุวัต สงนวล ได้เผยแพร่บทความที่น่าสนใจไว้ดังนี้ ความรู้จาก workshop โครงการทุนบูรณาการเพื่อความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ (TMTE Fund) Day 1: เช้า - ปท.ไทยมีรพ.มาตรฐานสูงมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก (อเมริกาอันดับหนึ่ง และไทยมีมากกว่าสิงคโปร์ถึงสามเท่า) - แต่ค่ารักษาพยาบาลถูกมาก (ถูกกว่า US ถึงสี่เท่า) - โรคที่มีการรักษาและมีค่าใช้จ่ายมากที่สุด คือ โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับกระดูก มะเร็ง ตา โรคที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ - ประเทศไทยมีผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศเยอะ เพราะมารักษาที่ไทย ได้หลายอย่าง รพ.เหมือนโรงแรม อาหารอร่อย ที่เที่ยวสบาย มาทั้งครอบครัว แต่ - ทั้งหมดนี้ประเทศไทยได้ประโยชน์น้อยมาก เพราะ เราทำยาไม่เป็น แม้แต่ไหมเย็บแผล หรือผ้ากอซก็ยังต้องนำเข้า ไม่ต้องพูดถึง เทคโนโลยี, AI เราต้องพัฒนาโดยใช้ spring board ที่เรามี คือระบบรพ.ที่ดีมาก แล้วเร่งพัฒนา medical technology ให้เร็ว เพื่อมาตอบโจทย์ตรงนี้ ที่มา

มาขายอุจจาระกันเถอะ

รูปภาพ
Facebook ชื่อ Pipat Piewngam ได้เผยแพร่บทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการใช้อุจจาระในการรักษาโรคไว้ดังนี้ 💩💩💩 อุนจิดี มีชัยไปกว่าครึ่ง 💩💩💩 หลายๆคนนึกภาพของอุจจะระ คงจะขยะแขยงไปตามๆกัน แต่หารู้ไม่ว่า ในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะรวยได้ โดยการ “ขายขี้” 😮😮😮 วิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันนั้นพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง เราก็ยังแพ้ให้กับโรคร้ายต่างๆอยู่ดี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีการศึกษาเกี่ยวกับจำนวนประชากรแบคทีเรียทั้งหมดในทางเดินอาหาร (gut microbiome) อย่างมากมาย นักวิทยาศาสตร์พบว่า gut microbiome นั้น มีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์ หากเราสูญเสียสมดุลของ gut microbiome ก็จะทำให้เกิดโรคภัยต่างๆตามมา เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบว่า การสูญเสียสมดุลของ gut microbiome สัมพันธ์กับการเกิดโรค ทำไมเราไม่หาทางรักษาสมดุลของพวกมันล่ะ? หนึ่งในวิธีการรักษาสมดุล gut microbiome นั้นก็คือ การปลูกถ่ายอุจจาระ (Fecal microbiota transplant, FMT) โดยการหาอุจจาระจากอาสาสมัครสุขภาพดี (อุจจาระก็ต้องมีสุขภาพดีด้วย สุขภาพของอุจจาระแบ่งออกได้เป็น 7 ระดับ) ซึ่งวิธีดังกล่าว ใช้ได้ผลในการรักษาลำ

จีนพันธุวิศวกรรมเด็กทารกสำเร็จ

รูปภาพ
เมื่อวานนี้ เพจ Biology Beyond Nature: ชีววิทยาเหนือธรรมชาติ ได้เผยแพร่บทความที่น่าสนใจไว้ดังน เมื่อวานนี้มีข่าวใหญ่ว่าทีมวิจัยจากจีนได้พันธุวิศวกรรมเด็กทารกสำเร็จ เดี๋ยววันนี้แอดมินจะสรุปประเด็นหลักๆให้ฟัง 1. ถาม: เรื่องนี้ใหม่ยังไง? ตอบ: นักวิจัยจากหลายแล็บทั่วโลกได้ทดลองปรับแต่งพันธุกรรมเซลล์มนุษย์มานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาทำในแค่เซลล์เพาะเลี้ยงซึ่งไม่สามารถพัฒนาเป็นตัวอ่อนมนุษย์ หรืออย่างมากก็ทำในตัวอ่อนที่ผิดปกติเกินกว่าจะโตมาเป็นทารกได้ ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลทั้งทางจริยธรรม, ข้อห้ามทางกฏหมาย และความยากทางเทคนิกเช่นการทำให้เซลล์ทุกเซลล์ในตัวอ่อนได้รับการปรับแก้อย่างทั่วถึง ตลอดจนผลข้างเคียงจากการปรับแต่งดีเอ็นเอพลาดเป้า ดังนั้นถ้างานนี้เป็นจริงก็จะเป็นครั้งแรกของโลกที่เราได้ให้กำเนิดมนุษยปรับแต่งพันธุกรรม 2. ถาม: วิศวกรรมอะไร? ยังไง? ตอบ: งานนี้ทีมวิจัยใช้เทคโนโลยีCRISPR/Cas (อ่านเพิ่มเติมที่: https://www.facebook.com/…/a.680275942134…/881894751973106/… ) เทคนิกปรับแก้จีโนมยอดนิยมที่ทั้งง่าย ไว ถูก และประสิทธิภาพสูงกว่าเทคนิกก่อนหน้านี้เป็นร้อยเป็นพันเท่า เป้าหมายในการปร

16 ปี 16 ความจริงของบัตรทอง

รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ได้โพสต์ลง Facebook ไว้อย่างน่าสนใจ เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2561 เวลา 17:58 น.  ความว่า 16 ปี 16 ความจริงของบัตรทอง ก่อนปี 2545 ตอนนั้นผมเป็นหมอที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ดินแดนที่มีประชาชนมากที่สุดในประเทศไทย มีหมอน้อยที่สุด ประชาชนมีฐานะยากจนเป็นส่วนใหญ่ และมีปัญหาสุขภาพต่างๆ มากมาย การเข้าถึงการรักษาไม่ดี ผู้ป่วยไตวายไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ ก็ต้องปล่อยให้เสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา ผู้ป่วยมะเร็งก็ไม่มีค่ายาเคมีบำบัด ผมรู้สึกเศร้าใจมาก ต่อมาคนไทยมีหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีบัตรทองทำให้คนไทยที่ไม่มีสิทธิการรักษาข้าราชการ หรือประกันสังคม ซึ่งเป็นคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศประมาณร้อยละ 75 สามารถเข้าถึงการรักษาได้ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยไทยก่อนมีบัตรทอง และหลังมีบัตรทอง จึงอยากเล่าให้คนไทยทุกคนทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ดังนี้ 1. ภาระหนี้สินและการล่มสลายด้านการเงินจากปัญหาด้านสุขภาพของคนไทยลดลงชัดเจน ในอดีตครอบครัวต้องกู้หนี้ยืมสิน ขายวัว ขายควาย และทรัพย์สินต่างๆ เพื่อมารักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งในปัจจุบันนั้นบ