บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม 30, 2015

ดื่มน้ำมะพร้าวแล้วลูกจะผิวขาวจริงหรือ?

ดื่มน้ำมะพร้าวแล้วลูกจะผิวขาวจริงหรือ? โดย ฐานิกา บุษมงคล ดื่มน้ำมะพร้าวแล้วลูกออกมาผิวขาวจริงหรือ เรื่องนี้เป็นเพียงความเชื่อ ไม่ใช่ความจริง ในน้ำมะพร้าวมีกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นไขมันไม่อิ่มตัว และไขมันอิ่มตัว  หญิงตั้งครรภ์ที่ดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำ  ไขมันทั้งสองอย่างนี้จะทําให้การสร้างไขตัวเด็กได้สีค่อนข้างขาว เลยทำให้คนโบราณเชื่อว่า ดื่มน้ำมะพร้าวมากๆแล้วทำให้ทารกน้อยคลอดออกมาตัวสะอาด แต่จริงๆแล้วทารกน้อยยังคงมีไขอยู่ตามปกติ น้ำมะพร้าวไม่ได้ล้างไขให้น้อยลงแต่อย่างใด น้ำมะพร้าวมีส่วนประกอบที่ทำให้ไขมีสีอ่อนลงก็จริง แต่ไม่มีผลต่อสีผิวของทารกในครรภ์ การที่ลูกน้อยจะมีสีผิวขาว คล้ำ หรือชมพูนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์จากพ่อแม่ล้วนๆ บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของนางฐานิกา บุษมงคล สามารถแชร์ได้ แต่ห้าม copy สนใจซื้อบทความชิ้นนี้ ติดต่อ aj.thanika@gmail.com หรือ โทรศัพท์ 085 645 8080

ดื่มน้ำมะพร้าวแล้วแท้งลูก จริงหรือ?

ดื่มน้ำมะพร้าวแล้วแท้งลูก จริงหรือ?  โดย ฐานิกา บุษมงคล  โบราณเชื่อว่า ดื่มน้ำมะพร้าวมากๆจะทำให้แท้งลูก  ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เพราะน้ำมะพร้าวประกอบด้วย ส่วนผสมหลักๆ  4  อย่างคือ น้ำ กรดไขมัน น้ำตาลจากธรรมชาติ และฮอร์โมนเอสโตรเจน(estrogen)  โดยกรดไขมันนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ส่วนน้ำตาลก็ให้ความหวานและพลังงานแก่ร่างกาย ส่วน ฮอร์โมนเอสโตรเจนนั้น เป็นฮอร์โมนก็จริงแต่มีปริมาณน้อยนิดจนไม่สามารถทำอันตรายให้เกิดการแท้งได้  ดังนั้นความเชื่อที่ว่า กินน้ำมะพร้าวแล้วทำให้แท้งลูกจึงไม่เป็นความจริง ส่วนประกอบทางโภชนาการของน้ำมะพร้าว  Nutrient values and weights are for edible portion. บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของนางฐานิกา บุษมงคล สามารถแชร์ได้ แต่ห้าม copy สนใจซื้อบทความชิ้นนี้ ติดต่อ aj.thanika@gmail.com หรือ โทรศัพท์ 085 645 8080

ดื่มน้ำมะพร้าวล้างไข ล้างได้จริงหรือ?

ดื่มน้ำมะพร้าวล้างไข ล้างได้จริงหรือ? โดย ฐานิกา บุษมงคล เรามักได้ยินได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับความเชื่อของคนโบร่ำโบราณมาว่า  ถ้าให้คนท้องดื่มน้ำมะพร้าวจะช่วยล้างไขให้ลูกน้อยได้ โดยคนโบราณมีความเชื่อว่า ถ้าให้หญิงตั้งครรภ์ดื่มน้ำมะพร้าวทุกวัน จะช่วยให้ลูกน้อยคลอดออกมาเนื้อตัวสะอาดสะอ้านปราศจากไข แต่จริงๆแล้วก็ไม่เกี่ยวกันเลย ไขที่มากับตัวเด็กตอนคลอด เป็นสิ่งที่จะต้องมีตามธรรมชาติอยู่แล้ว ส่วนประกอบของน้ำมะพร้าวก็ไม่มีสิ่งใดที่จะช่วยกำจัดไขไปได้ เลย หากจะหญิงตั้งครรภ์ดื่มน้ำมะพร้าว คงช่วยเพียงให้ความหวานและให้ความสดชื่น ก็เท่านั้นเอง บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของนางฐานิกา บุษมงคล สามารถแชร์ได้ แต่ห้าม copy สนใจซื้อบทความชิ้นนี้ ติดต่อ aj.thanika@gmail.com หรือ โทรศัพท์ 085 645 8080

กินเบียร์ล้างไข เรื่องเข้าใจผิดที่ทำร้ายลูกน้อย?

โดย ฐานิกา บุษมงคล สงวนลิขสิทธิ์ มีคุณแม่บางท่านมีความเชื่อว่า กินเบียร์ขณะตั้งครรภ์ จะช่วยล้างไขเด็กได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง  เบียร์ เป็นอันตรายกับเด็กมากกว่าเป็นประโยชน์ เพราะ เบียร์ มีฤทธิ์กดประสาท  จึงออกฤทธิ์กดสมองลูกน้อยในครรภ์  จึงห้ามกินเด็ดขาด เด็กคลอดออกมาเป็นเด็กง่วงซึม หลับตลอด เหมือนคนเมา และอาจติดเบียร์ โดยเด็กจะมีอาการเป็นเด็กหงุดหงิด และมีอาการเหมือนคนติดเหล้า ดังนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จึงไม่ควรกินเบียร์เพื่อล้างไขอีกต่อไป

ไขคืออะไร?

ไขคืออะไร? โดย ฐานิกา บุษมงคล ไขที่เคลือบตัวทารกแรกเกิดคืออะไร และจำเป็นต้องมีหรือไม่ คำตอบก็คือทารกเมื่อแรกเกิดต้องมีไขกันทุกคน เป็นเรื่องปกติ ทารกแรกเกิดทุกคนย่อมมี “ไข” เคลือบผิว ไขไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกำจัด การที่เด็กลอยในน้ำคร่ำ 9 เดือน โดยผิวไม่เปื่อยไม่ยุ่ย ก็เพราะมีไขเคลือบผิวไว้ ดังนั้น เราจะกำจัดไขไปเพื่ออะไร ไขช่วยหล่อลื่นให้คลอดง่าย ช่วยให้เด็กเคลื่อนลงตามช่องทางคลอดได้ง่าย ไขจึงเป็นของดี ไม่ใช่ของเสีย จึงไม่จำเป็นต้องกำจัดไข เมื่อคลอดออกมาพยาบาลก็เป็นผู้ทำความสะอาดเด็ก เช็ดไขออกให้จนหมดเกลี้ยง จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องกำจัดไข ไม่ว่าจะด้วยวิธีกินน้ำมะพร้าว กินเบียร์หรือวิธีอื่นใด บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของนางฐานิกา บุษมงคล สามารถแชร์ได้ แต่ห้าม copy สนใจซื้อบทความชิ้นนี้ ติดต่อ aj.thanika@gmail.com หรือ โทรศัพท์ 085 645 8080

7 วิธีรับมืออาการแพ้ท้องให้อยู่หมัด

7 วิธีรับมืออาการแพ้ท้องให้อยู่หมัด โดย ฐานิกา บุษมงคล เมื่อตั้งครรภ์อ่อนๆ คุณแม่ก็เริ่มไม่สุขสบายกับอาการแพ้ท้อง จนอาจจะมีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้นเรามาเตรียมรับมืออาการแพ้ท้องให้อยู่หมัดกันไปเลย เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งส่งคุณแม่เข้านอนกันเลยทีเดียว 1 ตื่นนอนใหม่ๆให้นอนลืมตาสักพัก จึงค่อยๆลุกนั่งสักครู่ แล้วค่อยลุกขึ้นยืน เพื่อป้องกันอาการเวียนศีรษะ แล้วจะส่งผลให้คุณแม่ไปทำงานไม่ไหว 2 ตอนเช้าจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ เช่นน้ำขิง น้ำมะนาว  น้ำสมุนไพรกลิ่นที่คุณแม่ชื่นชอบ  พร้อมขนมปังกรอบๆจะช่วยให้สบายท้อง ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน 3 อาบน้ำ แปรงฟัน สระผม ให้หลีกเลี่ยงสบู่ ยาสีฟัน แชมพู แป้ง หรือเครื่องสำอางที่มีกลิ่นรบกวน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพร จะช่วยให้คุณแม่สบายกายสบายใจมากขึ้น 4 ทานอาหารน้อยๆแต่บ่อยๆครั้ง โดยแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ  ประมาณ 4 - 6 มื้อ  หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และจะส่งผลให้คุณแม่แสบร้อนยอดอก หรือ คลื่นไส้อาเจียนได้ 5 งีบสักหน่อยตอนบ่ายๆ การงีบประมาณ ครึ่งชั่วโมงตอนบ่ายๆจะช่วยให้คุณแม่สดชื่น และลดอาการอ่อนเพลีย สามา