แจ็ค หม่า
ใน พ.ศ. นี้ น้อยคนนักที่ไม่รู้จัก แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba กลุ่มธุรกิจอี คอมเมิร์ซ อันทรงพลังของจีน เขาคือมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนด้วยทรัพย์สินมูลค่า 1.95 หมื่นล้านเหรียญ จากการประเมินของ Forbes เมื่อ ตุลาคม 2014 นอกจากนี้ เขาคือบุคคลที่ทรงอิทธิพลอันดับ 30 จาก 72 คนทั่วโลกจากการลงมติของบรรณาธิการทั้งหมดของ Forbes เมื่อ พฤศจิกายน 2014
อดีต ครูภาษาอังกฤษชาวจีนผู้เติบโตจากพ่อแม่ที่เป็นนักดนตรีพื้นเมือง ได้สร้างความสั่นสะเทือน ตกตะลึงให้แก่แวดวงการเงินของโลก เมื่อกันยายน ปีที่แล้ว ด้วยการระดมทุนถึง 2.5 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 8.25 แสนล้านบาท จากการขายหุ้น IPO แล้วนำหุ้นบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก IPO ครั้งนี้นอกจากทำให้หม่า กลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศจีนแล้ว ยังสร้างความมั่งคั่งให้แก่ผู้ถือหุ้นดั้งเดิม 2 ราย ใน Alibaba คือ Softbank และ Yahoo ด้วย
องค์ ประกอบที่ทำให้ชายวัย 50 ปีผู้นี้ประสบความสำเร็จ เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลของจีนและของโลก ก็คือ ความมีวิสัยทัศน์ ใจกล้า ไม่ท้อต่อความล้มเหลว ทำตามฝัน ลองผิด ลองถูก เป็นนักสู้ รู้จักคว้าโอกาสที่เข้ามา ต่อยอดไปจนประสบความสำเร็จ
เขามีวิสัย ทัศน์แต่เด็ก เขารู้ตัวว่าไม่เก่งคณิตศาสตร์ แต่รักการเรียนภาษาอังกฤษ ในขณะที่จีนกำลังเปิดประเทศภายหลังเหมา เจ๋อ ตุงหมดอำนาจลง เป็นเวลา 9 ปี เด็กชายหม่าขี่จักรยานออกจากบ้านทุกเช้าไปโรงแรม หังโจว ผูกมิตรกับแขกต่างชาติของโรงแรม เสนอตัวเป็นไกด์พาเที่ยวให้ฟรี เพียงเพื่อเขาจะได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ
เขาสอบตกการสอบระดับประเทศ ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐถึง 2 ครั้ง จนต้องไปเข้าเรียนในวิทยาลัยครูในหังโจว จนจบการศึกษาในปี 1988 แล้วออกมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยท้องถิ่น ได้รายได้เดือนละไม่ถึง 400 บาท จนกระทั่งปี 1994 เขามาเริ่มธุรกิจรับจ้างแปล จนทำให้เขาได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ได้รู้จักกับโลกแห่งอินเทอร์เน็ต พร้อมกับนำแนวคิดทำธุรกิจ โทรศัพท์หน้าเหลือง บนโลกออนไลน์ กลับมาทำจีน แต่ต้องล้มเหลว
แล้ว เทพีแห่งโชคลาภ ก็มาถึงเขา หม่าเข้าทำงานที่กระทรวงความร่วมมือการค้าและเศรษฐกิจต่างประเทศ แล้วได้รับมอบหมายให้เป็นล่ามภาษาพาชาวอเมริกันผู้หนึ่งเที่ยวชมกำแพงเมือง จีน แขกผู้นั้น ก็คือ เจอรี หยาง ผู้ร่วมก่อตั้ง Yahoo การพบกันครั้ง คือ จุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของชายทั้งสอง
จนกระทั่งปี 1999 หม่าสั่งสมประสบการณ์ด้านอินเทอร์เน็ตอย่างเพียงพอ แล้วมาก่อตั้ง Alibaba ด้วยพนักงาน 17 คน ระดมทุนได้มาไม่ถึง 2 ล้านบาท ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยให้บริษัทจีนติดต่อค้าขายกับโลกภายนอกได้
ด้วย เลือดนักสู้ที่เข้มข้น และความชอบนิยายกำลังภายใน และศิลปะการป้องกันตัว หม่าลุยทุกทิศ สู้ทุกทางอย่างไม่หวั่นศักดิ์ศรีของยักษ์ใหญ่อเมริกันที่ครองตลาดโลกอยู่ เช่น อีเบย์ จนในที่สุด องค์ประกอบของ Alibaba คือเครือข่ายอีคอมเมิร์ซ กลายเป็นส่วนผสมของ eBay (Tao Bao), PayPal (AliPay), Amazon (Tmall, Aliyn), Orbitz (Taobao Travel), และ Google Play
เช่นเดียวกับ สตีฟ จ็อบส์ หม่ามีความสามารถในการถ่ายทอดความคิดของเขาออกมาให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายและชัดเจน เช่น ใช้ชื่อ Alibaba เป็น ชื่อบริษัทของเขาที่ต้องทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับคนทั่วโลก จึงต้องใช้ชื่อที่คนทั้งโลกคุ้นเคย จำได้ง่าย และ อีกสิ่งที่นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ ล้วนมีคือ ความคิดในการทำให้สังคมที่เขาอยู่ดีขึ้น
เขาบริจาคเงินนับพันล้าน เหรียญให้แก่องค์การกุศล โครงการค้นคว้าด้านสิ่งแวดล้อม การแพทย์ และการศึกษา และมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาของประเทศ
เขาเคยเขียนไว้ในบทความชิ้นหนึ่งเมื่อปี 2013 ว่า “หลัง จากที่อินเทอร์เน็ตได้สร้างปรากฏการณ์ปฏิรูปวงการค้าปลีกไปแล้ว เราชาว อาลีบาบา เชื่อว่า พวกเราจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้ในอุตสาหกรรม อื่นที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เช่น การเงิน การศึกษา และสาธารณสุข ถ้าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น ถ้าพวกเราเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด ผมเชื่อว่า สปิริตแห่งความเท่าเทียมและความโปร่งใสซึ่งเป็นหัวใจของอินเทอร์เน็ตจะทำให้ ประเทศจีนสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางสถาบันและสังคมได้อย่างก้าวกระโดด”
ผมอยากเห็นประเทศไทยมี “แจ็ค หม่า”
นพพร วงศ์อนันต์
- See more at: http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=373#sthash.wMrzLzPO.dpuf
ความคิดเห็น