วิธีหาเงินเข้ารัฐเพื่อไม่ต้องเก็บเงินค่ารักษาจากคนจน
หลายๆท่านทำบุญกับพระดังๆ วัดดังๆต่างๆมากมาย เป็นจำนวนเงินมหาศาลด้วย แล้วทางวัดก็เอาเงินไปสร้างสิ่งก่อสร้างที่ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า ระยะหลังๆก็มีผ้าป่าโรงเรียน ก็เลยอยากจะเชิญชวนให้ประชาชนทั้งหลายหันมาทำผ้าป่าเข้าโรงพยาบาลบ้างนะคะ เพื่อนำเงินไปใช้ในส่วนของ
1 จ่ายค่ายานอกบัญชีโครงการ 30 บาทของโรงพยาบาลในท้องถิ่นตนเอง
2 สนับสนุนโครงการ 30 บาท ของโรงพยาบาลในท้องถิ่นตนเอง
3 เอาไปจ่ายอะไรก็ได้ ที่ 30 บาทเค้าจ่ายไม่ได้ เช่นการฟอกเลือด
ทั้งนี้เพื่อลดภาระการขาดทุน และทำให้โรงพยาบาลมีเงินทุนหมุนเวียน พูดให้เข้าใจง่ายๆว่า ที่ผ่านมา โครงการ 30 บาท ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนมั้ย ถ้าขาดทุนแล้วโรงพยาบาลเอาเงินอะไรมาอุด เช่น เอาเงินเดือนพนักงานมาหมุนก่อนมั้ย ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ก็ต่อไปไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว ใช้เงินบริจาค เงินผ้าป่าของประชาชนเข้าไปอุดหนุนแทน
มันจะดีนะ บุญกุศลที่ช่วยคนเจ็บ ช่วยให้โรงพยาบาลรักษาคนเจ็บคนจนได้ดีขึ้น เราก็จะมีความสุขกายสบายใจนะ ลองดูค่ะ
วิธีหาเงินเข้ารัฐเพื่อไม่ต้องเก็บเงินค่ารักษาจากคนจน
- สร้างยันต์ หรือพระสุขภาพดีให้เช่าค่ะ แค่นี้เงินก็ไม่หวาดไม่ไหวค่ะ
- จัดอีเว้นท์รับบริจาคเงินปีละ 77 ครั้ง จังหวัดละ 1 ครั้ง
- ทอดผ้าป่า
- มีช่องให้ติ๊กบริจาคเงินเข้าโครงการรักษาฟรี และลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ก็ทีบริจาคพรรคการเมืองยังทำได้ ประสาอะไรเรื่องแค่นี้จะทำไม่ได้
- ตั้งกล่องรับบริจาค(ตามศรัทธา) เข้าโครงการรักษาฟรีไว้เป็นจุดตามแหล่งบริการสาสุข
- เปิดให้กลุ่มธุรกิจบริจาคเข้าโครงการรักษาฟรีและนำไปลดหย่อนภาษีธุรกิจได้ด้วย
ธงของเรา โจทย์ของเราก็คือ ทำอย่างไรให้โครงการรักษาฟรียังคงอยู่และอยู่อย่างดีด้วย ที่ผ่านมาทั้งหมดของปัญหา บอกเลยมันเป็นปัญหาเชิงบริหารและเชิงระบบค่ะ อย่าผลักภาระให้ประชาชนเลย
ในฐานะที่เคยเป็นพยาบาลทำงานทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ในฐานะที่เป็นอาจารย์พยาบาล ก็เลยอยากจะเรียนถามท่าน รมว.สาสุข และ สปสช. ว่า การที่ให้ประชาชนร่วมจ่ายนั้นมันใช่หรือ แล้วจะให้ร่วมจ่ายในลักษณะไหน ให้จ่ายแบบครั้งละ 30 บาทแบบเดิมมั้ย อันนี้รับได้ แต่ถ้าจะให้จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์อันนี้ไม่เห็นด้วย สงสารชาวไร่ชาวนา คนยากคนจน กรรมกร หาเช้ากินค่ำ อยากให้ท่านลองทบทวน หาวิธีว่า มีวิธีการอย่างอื่นมั้ยในการหาเงินมาใช้ในการรักษา ท่านลองคิดดูว่า ถ้ารักษาโรคร้ายแรง ค่ารักษาเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสน แล้วให้ช่วยจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านตาดำๆจะหาเงินที่ไหนมาจ่าย อยากวิงวอนขอให้ทบทวน ขอให้คิดดีๆ อย่าผลักประชาชนไปซื้อยากินเองเลยค่ะ ขอร้อง
ฟังอีกมุม! ปมดราม่า 30 บาทรักษาทุกโรค จากแพทย์ชื่อดัง
เมื่ออ่านบทความของท่านศาสตราจารย์แล้ว พบว่า "มุมมองต่อโครงการรักษาฟรี หรือโครงการ 30 บาท ของคนจนกับของท่านศาสตรจารย์ผิดกันอย่างสิ้นเชิง" คนจนกลายเป็นจำเลยในสายตาท่าน ท่านกล่าวว่า โครงการ 30 บาท "ทำให้การแพทย์และระบบถดถอยลงแค่ไหน" "ทำให้ไม่มีวัคซีนใหม่" "ทำให้ไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดได้" "ทำให้ไม่มียาใหม่มารักษาโรค" ก็ที่จริง รัฐดันเอาเรื่องพวกนี้มาพ่วงกับโครงการ 30 บาทเอง เรื่องการป้องกันโรค เรื่องวัคซีน เรื่องผลิตยาใหม่ เอามาพ่วงกับ 30 บาททำไม นี่มันปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเชิงการบริหารชัดๆ ชาวบ้านตาดำๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร คนจนไม่ได้เป็นคนเซ็นอนุมัติงบทำวัคซีนหรือยารักษาโรค คนจนไม่ได้มัดมือท่านไว้ไม่ให้วิจัยหรือผลิตยา คนจนต้องการรักษาฟรี ในที่นี้ไม่รวมกับที่ต้องเหมารถมาเอง หรือการนั่งรถโดยสารมารับการรักษา ไม่รวมกับค่ากินค่าอยู่เวลาญาติมาเฝ้า
ดิฉันขอกราบวิงวอนให้ ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ดูคลิปให้จบและตอบคำถามว่า ท่านจะให้ชายชราคนนี้ "ร่วมจ่าย" เท่าไหร่ ระบบวัคซีนและระบบยาใหม่ของท่านศาสตราจารย์จะได้เจริญรุ่งเรือง
1 จ่ายค่ายานอกบัญชีโครงการ 30 บาทของโรงพยาบาลในท้องถิ่นตนเอง
2 สนับสนุนโครงการ 30 บาท ของโรงพยาบาลในท้องถิ่นตนเอง
3 เอาไปจ่ายอะไรก็ได้ ที่ 30 บาทเค้าจ่ายไม่ได้ เช่นการฟอกเลือด
ทั้งนี้เพื่อลดภาระการขาดทุน และทำให้โรงพยาบาลมีเงินทุนหมุนเวียน พูดให้เข้าใจง่ายๆว่า ที่ผ่านมา โครงการ 30 บาท ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนมั้ย ถ้าขาดทุนแล้วโรงพยาบาลเอาเงินอะไรมาอุด เช่น เอาเงินเดือนพนักงานมาหมุนก่อนมั้ย ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ก็ต่อไปไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว ใช้เงินบริจาค เงินผ้าป่าของประชาชนเข้าไปอุดหนุนแทน
มันจะดีนะ บุญกุศลที่ช่วยคนเจ็บ ช่วยให้โรงพยาบาลรักษาคนเจ็บคนจนได้ดีขึ้น เราก็จะมีความสุขกายสบายใจนะ ลองดูค่ะ
วิธีหาเงินเข้ารัฐเพื่อไม่ต้องเก็บเงินค่ารักษาจากคนจน
- สร้างยันต์ หรือพระสุขภาพดีให้เช่าค่ะ แค่นี้เงินก็ไม่หวาดไม่ไหวค่ะ
- จัดอีเว้นท์รับบริจาคเงินปีละ 77 ครั้ง จังหวัดละ 1 ครั้ง
- ทอดผ้าป่า
- มีช่องให้ติ๊กบริจาคเงินเข้าโครงการรักษาฟรี และลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ก็ทีบริจาคพรรคการเมืองยังทำได้ ประสาอะไรเรื่องแค่นี้จะทำไม่ได้
- ตั้งกล่องรับบริจาค(ตามศรัทธา) เข้าโครงการรักษาฟรีไว้เป็นจุดตามแหล่งบริการสาสุข
- เปิดให้กลุ่มธุรกิจบริจาคเข้าโครงการรักษาฟรีและนำไปลดหย่อนภาษีธุรกิจได้ด้วย
ธงของเรา โจทย์ของเราก็คือ ทำอย่างไรให้โครงการรักษาฟรียังคงอยู่และอยู่อย่างดีด้วย ที่ผ่านมาทั้งหมดของปัญหา บอกเลยมันเป็นปัญหาเชิงบริหารและเชิงระบบค่ะ อย่าผลักภาระให้ประชาชนเลย
ในฐานะที่เคยเป็นพยาบาลทำงานทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ในฐานะที่เป็นอาจารย์พยาบาล ก็เลยอยากจะเรียนถามท่าน รมว.สาสุข และ สปสช. ว่า การที่ให้ประชาชนร่วมจ่ายนั้นมันใช่หรือ แล้วจะให้ร่วมจ่ายในลักษณะไหน ให้จ่ายแบบครั้งละ 30 บาทแบบเดิมมั้ย อันนี้รับได้ แต่ถ้าจะให้จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์อันนี้ไม่เห็นด้วย สงสารชาวไร่ชาวนา คนยากคนจน กรรมกร หาเช้ากินค่ำ อยากให้ท่านลองทบทวน หาวิธีว่า มีวิธีการอย่างอื่นมั้ยในการหาเงินมาใช้ในการรักษา ท่านลองคิดดูว่า ถ้ารักษาโรคร้ายแรง ค่ารักษาเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสน แล้วให้ช่วยจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านตาดำๆจะหาเงินที่ไหนมาจ่าย อยากวิงวอนขอให้ทบทวน ขอให้คิดดีๆ อย่าผลักประชาชนไปซื้อยากินเองเลยค่ะ ขอร้อง
ฟังอีกมุม! ปมดราม่า 30 บาทรักษาทุกโรค จากแพทย์ชื่อดัง
เมื่ออ่านบทความของท่านศาสตราจารย์แล้ว พบว่า "มุมมองต่อโครงการรักษาฟรี หรือโครงการ 30 บาท ของคนจนกับของท่านศาสตรจารย์ผิดกันอย่างสิ้นเชิง" คนจนกลายเป็นจำเลยในสายตาท่าน ท่านกล่าวว่า โครงการ 30 บาท "ทำให้การแพทย์และระบบถดถอยลงแค่ไหน" "ทำให้ไม่มีวัคซีนใหม่" "ทำให้ไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดได้" "ทำให้ไม่มียาใหม่มารักษาโรค" ก็ที่จริง รัฐดันเอาเรื่องพวกนี้มาพ่วงกับโครงการ 30 บาทเอง เรื่องการป้องกันโรค เรื่องวัคซีน เรื่องผลิตยาใหม่ เอามาพ่วงกับ 30 บาททำไม นี่มันปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเชิงการบริหารชัดๆ ชาวบ้านตาดำๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร คนจนไม่ได้เป็นคนเซ็นอนุมัติงบทำวัคซีนหรือยารักษาโรค คนจนไม่ได้มัดมือท่านไว้ไม่ให้วิจัยหรือผลิตยา คนจนต้องการรักษาฟรี ในที่นี้ไม่รวมกับที่ต้องเหมารถมาเอง หรือการนั่งรถโดยสารมารับการรักษา ไม่รวมกับค่ากินค่าอยู่เวลาญาติมาเฝ้า
ดิฉันขอกราบวิงวอนให้ ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ดูคลิปให้จบและตอบคำถามว่า ท่านจะให้ชายชราคนนี้ "ร่วมจ่าย" เท่าไหร่ ระบบวัคซีนและระบบยาใหม่ของท่านศาสตราจารย์จะได้เจริญรุ่งเรือง
ความคิดเห็น