The Must,NG Tube Testing
การตรวจสอบปลายสายให้อาหาร
โดย ฐานิกา บุษมงคล
ความสำคัญ
การพยาบาลที่ดีต้องมีการบริหารความเสี่ยง และการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยจากการทำหัตถการให้มากที่สุด
แนวคิด
สายยางให้อาหารที่สอดผ่านปากและจมูกนั้น มีคุณอนันต์และโทษมหันต์ ทำไมอาจารย์ถึงกล่าวเช่นนี้
เหตุผลคือ ถ้าผู้ป่วยได้รับการพยาบาลที่ดี ผู้ป่วยจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
แต่ถ้าให้อาหารเหลว โดยไม่ได้ตรวจสอบตำปหน่งปลายสายให้ดี สิ่งที่จะตามมานั้น อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อผู้ป่วย
อาจารย์จึงขอย้ำเตือนว่า เป็นสิ่งสำคัญที่พยาบาลหรือผู้ที่พยาบาลมอบหมายให้กระทำแทน จะต้องปฏิบัติก่อนให้อาหารทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าปลายสายอาหารอยู่ในกระเพาะอาหาร และเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากการที่ปลายสายให้อาหารเลื่อนออกมานอกกระเพาะอาหาร ( tube displacement)
วิธีการปฏิบัติ
1 ทดสอบด้วยการดูดดูสิ่งตกค้างในกระเพาะอาหาร (gastric residual) ถ้าได้สิ่งตกค้างจากกระเพาะอาหารแสดงว่าปลายสายอยู่ในกระเพาะอาหาร ถ้าไม่ได้สิ่งตกค้าง ให้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ปลายสายไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
2 ไม่ว่าการทดสอบในวิธีที่ 1 จะผ่านหรือไม่ The Must หรือสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องทำคือ การทดสอบด้วยวิธีที่ 2 คือ การทดสอบด้วยการฟังเสียงลมผ่านปลายสายให้อาหาร โดยใช้ Syringe Feed ดันลมเข้าไปประมาณ 10-15 มล. ในผู้ใหญ่ และ ในเด็ก 3-5 มล. พร้อมกับฟังด้วย Stethoscope บริเวณใต้ Xiphoid process ถ้าได้ยินเสียงฟืด นั่นคือปลายสายอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
เมื่อปลายสายอยู่ในตำแหน่งแล้ว ให้ทำการยึดติดสายให้แน่น แล้วทำการ Feed ให้อาหารทางสายยางได้
ขอให้คุณพยาบาลทุกท่านมีความสุขสวัสดีนะคะ
โดย ฐานิกา บุษมงคล
ความสำคัญ
การพยาบาลที่ดีต้องมีการบริหารความเสี่ยง และการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยจากการทำหัตถการให้มากที่สุด
แนวคิด
สายยางให้อาหารที่สอดผ่านปากและจมูกนั้น มีคุณอนันต์และโทษมหันต์ ทำไมอาจารย์ถึงกล่าวเช่นนี้
เหตุผลคือ ถ้าผู้ป่วยได้รับการพยาบาลที่ดี ผู้ป่วยจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
แต่ถ้าให้อาหารเหลว โดยไม่ได้ตรวจสอบตำปหน่งปลายสายให้ดี สิ่งที่จะตามมานั้น อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อผู้ป่วย
อาจารย์จึงขอย้ำเตือนว่า เป็นสิ่งสำคัญที่พยาบาลหรือผู้ที่พยาบาลมอบหมายให้กระทำแทน จะต้องปฏิบัติก่อนให้อาหารทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าปลายสายอาหารอยู่ในกระเพาะอาหาร และเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากการที่ปลายสายให้อาหารเลื่อนออกมานอกกระเพาะอาหาร ( tube displacement)
วิธีการปฏิบัติ
1 ทดสอบด้วยการดูดดูสิ่งตกค้างในกระเพาะอาหาร (gastric residual) ถ้าได้สิ่งตกค้างจากกระเพาะอาหารแสดงว่าปลายสายอยู่ในกระเพาะอาหาร ถ้าไม่ได้สิ่งตกค้าง ให้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ปลายสายไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
2 ไม่ว่าการทดสอบในวิธีที่ 1 จะผ่านหรือไม่ The Must หรือสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องทำคือ การทดสอบด้วยวิธีที่ 2 คือ การทดสอบด้วยการฟังเสียงลมผ่านปลายสายให้อาหาร โดยใช้ Syringe Feed ดันลมเข้าไปประมาณ 10-15 มล. ในผู้ใหญ่ และ ในเด็ก 3-5 มล. พร้อมกับฟังด้วย Stethoscope บริเวณใต้ Xiphoid process ถ้าได้ยินเสียงฟืด นั่นคือปลายสายอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
เมื่อปลายสายอยู่ในตำแหน่งแล้ว ให้ทำการยึดติดสายให้แน่น แล้วทำการ Feed ให้อาหารทางสายยางได้
ขอให้คุณพยาบาลทุกท่านมีความสุขสวัสดีนะคะ
ความคิดเห็น