การใช้กัญชาแบบ micro dose
การใช้กัญชาแบบไมโครโด๊ส หรือแบบไม้จิ้มฟันปลายแหลม
เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้นจากการใช้เกินขนาด
1-ไม่ต้องทราบชนิดไหนแบบใด ความเข้มข้นเท่าไหร่
2-เพราะกลไก อยู่ที่การใช้กัญชาจากภายนอกเข้าไปส่งสัญญาณให้ร่างกายผลิตกัญชาในตัวเองและปรับความบกพร่องของตัวเอง
3-ตามตำราต่างประเทศแม้ว่าจะให้เริ่มชนิดที่มีผลทางจิตประสาทหรือ THC ที่ 0.5 มก และที่ไม่มีผลทางจิตCBD ที่ 5 มก ก็ตาม
แต่การใช้กัญชาจากพืชธรรมชาติซึ่งมีตัวประกอบอยู่อีกหลายตัวและเป็นสิ่งที่ดีกลับใช้ปริมาณน้อยกว่า และถึงจะเป็นชนิดแบบจากต่างประเทศก็ตามที่รู้ความเข้มขันก็ควรเริ่มแต่น้อยเพิ่มทีละน้อยกลับนุ่มนวลสุขุมมากกว่า
4-การใช้ในลักษณะนี้จะตัดปัญหาการใช้เกินปริมาณและทำให้เกิดผลข้างเคียงผิดปกติทางหัวใจหรือเกิดอาการเมาขึ้น โดยถ้าเริ่มมีอาการคล้ายเมาเช่นเริ่มงงหรือเช้าต่อมาตื่นสายเกินไปนั่นก็คือจำนวนไม้จิ้มฟันต้องลดลงมาเล็กน้อย
5-ปัญหาก็คือจะต้องใช้เวลาปรับไม้จิ้มฟันจนกระทั่งได้ผล บางรายเป็นเวลาสองถึงสามสัปดาห์ และผู้ป่วยใจร้อนกลับใช้เป็นหยดซึ่งเมื่อไม่ได้ผลจะเริ่มงงว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกหรือลดลงดี
6-ในกรณีของความเจ็บปวดหรือต้องการนอนหลับเร็วๆ ซึ่งต้องการได้ผลเร็วอาจจะไม่ถูกใจ (ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจใช้ไม้จิ้มฟันหักปลายแทนที่จะเป็นไม้จิ้มฟันปลายแหลม)
หมายเหตุ: ในกรณีที่กัญชามีความเจือจางมากๆปริมาณหกไม้จิ้มฟันเช้าและหกไม้จิ้มฟันเย็นหรือก่อนนอน อาจเพิ่มปริมาณขึ้นได้อีกโดยดูปฏิกิริยาของการได้ขนาดมากเกิน
7-ในกรณีของโรคพาร์กินสัน ผู้ป่วยจะไม่ชอบเพราะเมื่อเริ่มให้กัญชาจะต้องลดขนาดยาลงทั้งหมดเหลืออยู่ในปริมาณน้อยเช่น
มาร์โดปา หรือ ซินนิเมทขนาด 1/2เม็ด 4 เวลา โดยไม่ต้องการอย่างอื่น requip trivastal sifrol comtan stalevo ยาแปะ และในช่วงแรกผู้ป่วยและวิตกกังวลมหาศาลที่เริ่มฝืด และกลับไปใช้ยาขนาดเดิม
ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องทำความเข้าใจว่าการใช้ยาเมื่อโรคดำเนินไปขนาดยาจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยเรื่อยแล้วในที่สุดยาจะไม่ได้ผลเลยจนกระทั่งถึงต้องไปใช้การกระตุ้นไฟฟ้าในสมองแทน ในกรณีเช่นนี้ยังสามารถใช้dopaminergic agonist ได้ร่วมกับ madopar /sinemet
ขณะเดียวกันอาจใช้ร่วมกับกัญชาที่เจือจางมหาศาล หนึ่งหยดทางปาก ซึ่งสามารถใช้ได้ถึงสี่ถึงหกครั้งต่อวันห่างกัน 4 ชั่วโมงโดยใช้เป็นยาฉุกเฉินเวลาที่ฝืดมากเกร็งปวด และทำให้นอนไม่หลับกลางคืนส่งผลทางอารมณ์หดหู่กังวลและยิ่งทำให้อาการของโรคเลวร้ายลงไปอีก
เป้าหมายคือสงบโรคชะลอไม่ให้พัฒนาให้ผู้ป่วยยังช่วยตัวเองได้ไปอีกหลาย 10 ปีและที่สำคัญก็คือถ้าได้ผลจะประหยัดเงินได้ประมาณเดือนละ 10,000 ถึงมากกว่า 20,000 บาท ไม่รวมค่าหมอ
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจูฑา
ความคิดเห็น